เงินบาทปิด 32.38/40 ยังทรงตัวจากช่วงเช้า ขาดปัจจัยใหม่หนุน

"เงินบาทก็ยังวิ่งแคบๆ ในกรอบระหว่าง 32.38 ครึ่ง ถึง 32.40 ครึ่ง...คาดว่าคงรอปัจจัยใหม่ๆที่จะเข้ามากระทบ แรงซื้อแรงขายก็น้อย...ตัวเลขสำคัญๆที่คาดว่าจะมีผลต่อค่าเงินช่วงนี้ออกไปหมดแล้ว"นักบริหารเงิน กล่าว

ทั้งนี้ คาดว่าคงรอการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ครั้งต่อไป

นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 32.35-32.45 บาท/ดอลลาร์

*ปัจจัยสำคัญ

• เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.71 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 101.77 เยน/ดอลลาร์
• เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3595 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.3605 ดอลลาร์/ยูโร
• ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,507.58 จุด เพิ่มขึ้น 4.37 จุด, +0.29% มูลค่าการซื้อขาย 36,587.12 ล้านบาท
• นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ยืนในแดนบวกได้ตลอด จากแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มแบงก์เก็งงบฯไตรมาส 2/57 และกลุ่มสื่อสารเก็งปันผลระหว่างกาล-จะมีการยื่นเรื่องประมูล 4G ให้คสช.พิจารณาสัปดาห์หน้า ด้านตลาดภูมิภาควันนี้แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบ โดยแต่ละตลาดฯหันไปโฟกัสงบฯในช่วงนี้กัน ทั้งนี้ตลาดฯเริ่มมี upside จำกัด จึงมีโอกาสพักฐานได้มากขึ้น แต่การพักฐานก็ไม่มาก พร้อมให้แนวรับ 1,500 แนวต้าน 1,510-1,520 จุด
• สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,123.59 ลบ.(SET+MAI)
• นายอาคม เติมพิทยไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) โดยยืนยันว่าจากติดตามข้อมูลและดัชนีต่างๆ ทางเศรษฐกิจในช่วง 5-6 เดือนแรกในปีนี้ จะเห็นได้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวปรับตัวดีขึ้น ทำให้เห็นสัญญาณที่ดีในเดือน มิ.ย. จึงเชื่อว่าเศรษฐกิจในปีนี้ยังสามารถเติบโตได้ในกรอบ 1.5-2.5% ตามที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้ และมีโอกาสที่จะเติบโตในขั้นสูงถึง 2.5%
• ตลาดหุ้นเกิดใหม่ปรับตัวขึ้นวันนี้ เนื่องจากหุ้นอินโดนีเซียปรับตัวขึ้น ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ในวันพรุ่งนี้
• ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้เกือบจะทรงตัว ในขณะที่นักลงทุนให้ความสนใจกับมูลค่าหุ้นและการรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ
• นายฮิโรชิ นาคาโสะ รองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เผยบีโอเจจะลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรของรัฐบาลญี่ปุ่นลงเป็นจำนวนมาก ภายหลังจากที่อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นบรรลุเป้าหมายที่ระดับ 2% แล้ว

---