นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 31.78/79 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากตอนเปิดตลาดเช้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 31.85/87 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่อง ในช่วงเช้า High สุด 31.89 มีการเก็งกำไรว่าอาจจะมีเด้ง แต่ช่วงท้ายตลาดมี Flow เข้ามาค่อนข้างเยอะ ต่างชาติขาย Offshore ก็ขาย ทำให้เงินบาทร่วงมาเกือบ 10 สตางค์ในช่วงชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดตลาด" นักบริหารเงิน กล่าว
ทั้งนี้ มองว่าเงินบาทยังมีโอกาสแข็งค่าต่อเนื่องไปทดสอบจุดต่ำสุดคือ 31.60 บาท/ดอลลาร์ แต่เนื่องจากคืนนี้จะมีประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน มิ.ย. สหรัฐ ถ้าตัวเลขออกมาดีเงินบาทก็อาจจะอ่อนค่าขึ้นมาได้บ้าง แต่ถ้าตัวเลขออกมาไม่ดีก็อาจจะซ้ำเติมให้เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง
ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวในกรอบ 31.60 -31.85 บาท/ดอลลาร์
*ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.54 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 101.50 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3480 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.3530 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,520.81 จุด ลดลง 17.74 จุด, -1.15%
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,759.96 ลบ.(SET+MAI)
- ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย(TMB) ประเมินว่า ค่าเงินบาทในปีนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 32.50 บาท/ดอลลาร์ แม้ว่าขณะนี้จะมีกระแสเงินสดจากต่างชาติไหลเข้ามาในประเทศค่อนข้างมากตั้งแต่ปลายมิ.ย.-ก.ค.นี้ แต่มองว่าการที่มีเงินไหลเข้านั้นมาจากต่างชาติต้องการหาช่องทางการลงทุนระยะสั้นและได้ผลตอบแทนในระดับสูง เพื่อรอความชัดเจนของการปรับขึ้นอัตราของเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) โดยแนวโน้มของค่าเงินบาทในปีนี้ยังไม่แข็งค่าขึ้น เนื่องจากคาดว่าจะมีความชัดเจนจากเฟดเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งแรกของปี 58
- นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ปฏิบัติราชการแทนรมว.คลัง กล่าวว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้อนุมัติให้กระทรวงการคลังเข้าร่วมกับสมาชิกอาเซียนในการหารือกับกระทรวงการคลังสาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงรายละเอียดการจัดตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย (Asian Infrastructure Investment Bank: AIIB) ซึ่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นผู้เสนอแนวคิดในการจัดตั้ง
- นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงแนวโน้มการส่งออกสินค้าไทยในช่วงครึ่งหลังปี 57 ว่า น่าจะกลับมาดีขึ้นตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ได้ประเมินว่าจะขยายตัวได้ 6-7% แม้ในช่วงครึ่งปีแรกยังติดลบ แต่เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าในตลาดหลักทั้งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป(อียู) กลับมาขยายตัวดีขึ้น และยังมีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าการส่งออกในปีนี้จะขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ 3.5%
- ตลาดหุ้นเกิดใหม่ปรับตัวขึ้นในวันนี้ แตะระดับสูงสุดในรอบ 17 เดือน เนื่องจากหุ้นจีนในตลาดหุ้นฮ่องกงพุ่งขึ้น ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่ารัฐบาลจะเพิ่มมาตรการกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ
- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดในแดนบวกวันนี้ ท่ามกลางสัญญาณที่บ่งชี้ถึงสถานการณ์ที่คลี่คลายลงในยูเครน ในขณะที่บริษัทต่างๆได้ทยอยรายงานผลประกอบการ
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 80 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,080 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,306.72 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 8.65 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง