นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.13/14 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากเปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 32.25/27 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามภูมิภาค และแรงเทขายดอลลาร์
"ตอนเช้าพยายามขึ้นไปทดสอบที่ 32.32(บาท/ดอลลาร์) พอไม่ผ่านก็มีแรงทุบขายทิ้งลงมา" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวในสัปดาห์หน้าจะอยู่ระหว่าง 32.10-32.30 บาท/ดอลลาร์
"ค่าเงินบาทน่าจะเหวี่ยงอยู่ในกรอบเดิมๆ รอความชัดเจน เพราะมีข่าวทั้งสองฝั่ง ทั้งเงินทุนไหลเข้า และความกังวลต่อสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลาง ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งสองฝั่ง" นักบริหารเงิน กล่าว- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.90 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 102.31 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3346 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3377 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,520.31 จุด ลดลง 1.96 จุด, -0.13% มูลค่าการซื้อขาย 39183.21 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,114.49 ล้านบาท(SET+MAI)
- นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่า การบริโภคภาคเอกชนในช่วงครึ่งหลังของปี 57 จะเติบโตต่อไปได้ดี แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกเติบโตในระดับต่ำ และตัวเลขรายเดือนยังชะลอตัว
- นายคุรุจิต นาครทรรพ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า ประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะเผชิญวิกฤตพลังงานในประเทศ เนื่องจากความต้องการใช้พลังงานที่มีมากถึง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่มีความสามารถในการผลิตพลังงานได้เองแค่ 8.68 แสนบาร์เรลต่อวัน ทำให้ประเทศไทยต้องนำเข้าพลังงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งใช้เงินจำนวนมหาศาล โดยมูลค่าของการนำเข้าพลังงานอยู่ที่ 1.4 ล้านล้านบาทต่อปี ทำให้เสียโอกาสที่จะนำเงินไปใช้จ่ายในสิ่งที่เป็นประโยชน์ด้านอื่น
- นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบร้อยละ 8 จะส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อไม่มาก โดยจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.05 และทั้งปีคาดไม่เกินร้อยละ 2.35
- สำนักงานสถิติของเยอรมนี เผยยอดส่งออกของเยอรมนีได้ดีดตัวขึ้นในเดือน มิ.ย.โดยมีปัจจัยหลักจากการค้าระหว่างประเทศในไตรมาสสอง ส่วนยอดนำเข้าก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันในเดือน มิ.ย.ทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี
- ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของชาวญี่ปุ่นที่ประกอบอาชีพที่มีความอ่อนไหวต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจได้ปรับตัวดีขึ้นในเดือน ก.ค. ต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากความกังวลต่อผลพวงจากการขึ้นภาษีบริโภคเมื่อวันที่ 1 เม.ย.นั้นคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค diffusion index ในกลุ่มอาชีพที่อ่อนไหวต่อสภาพเศรษฐกิจ('economy watchers) อาทิ คนขับรถแท็กซี่ และพนักงานร้านอาหาร ปรับตัวขึ้น 3.6 จุดจากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 51.3 ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 เป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน
- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ปิดแดนลบในการซื้อขายช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย.ปีที่แล้ว เนื่องจากแรงซื้อที่มีเข้ามาภายหลังจากที่ตลาดหุ้นโตเกียวร่วงหนัก โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 334 ซึ่งเป็นมาตรวัดดอกเบี้ยระยะยาว ปิดที่ 0.505% ลดลง 0.020% จากระดับปิดเมื่อวานนี้ ขณะที่ราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปี ส่งมอบเดือน ก.ย.ปรับตัวขึ้น 0.21 จุด แตะที่ 146.16 ที่ตลาดหุ้นโอซาก้า
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงพุ่งขึ้น 120 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,200 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือรายงานเทียบเท่ากับ 1,321.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 13.00 ดอลลาร์สหรัฐ
- ข้อมูลสถิติล่าสุดบ่งชี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของฝรั่งเศสปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าการคาดการณ์ในเดือน มิ.ย.ถึงแม้ว่าจะยังไม่มากพอที่จะฉุดรั้งไม่ให้ผลผลิตในไตรมาสที่ 2 ต้องหดตัวลงก็ตาม โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของฝรั่งเศสมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่สองของยูโรโซนขยายตัว 1.3% ในเดือน มิ.ย.เมื่อเทียบกับเดือน พ.ค. และสูงกว่าระดับ 0.8% ที่นักวิเคราะห์คาดว่า จะขยายตัวในเดือนดังกล่าว