เงินบาทปิด 32.52/53 อ่อนค่าตามภูมิภาค รอความชัดเจนทิศทางดอกเบี้ยของเฟด

"กลับมาอ่อนค่าตามภูมิภาค ทิศทางยังไม่ชัดเจน แล้วแต่การแปลความของนักลงทุนว่าข่าวที่ออกมาจะส่งสัญญาณอย่างไร" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบเงินบาทในวันพรุ่งนี้จะเคลื่อนไหวระหว่าง 32.40-32.60 บาท/ดอลลาร์

• ปัจจัยสำคัญ

• เงินเยนอยู่ที่ระดับ 105.68 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 106.03 เยน/ดอลลาร์
• เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2747 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2833 ดอลลาร์/ยูโร
• ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,526.15 จุด ลดลง 21.26 จุด, -1.37% มูลค่าการซื้อขาย 46,322.98 ล้านบาท
• สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,589.12 ล้านบาท(SET+MAI)
• นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า เศรษฐกิจในไตรมาส 4/57 เติบโตได้ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีฐานต่ำ และนโยบายของภาครัฐท่จะเร่งใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมากเข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่ช่วงต้นปีมีการชะลอการเบิกจ่ายเงินภาครัฐ นอกจากนั้นยังมีการอัดฉีดเม็ดเงินช่วยเหลือชาวนาในวงเงินประมาณ 4 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 0.3% ของ GDP ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นได้
• นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า โอกาสที่เศรษฐกิจไทยในปี 58 จะเติบโตได้ถึง 6% ตามที่มีผู้คาดการณ์ไว้คงเป็นไปได้ยาก โดยขณะนี้ ธปท.ยังคงคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจปีหน้าที่ 4.8% ซึ่งมีโอกาสทั้งเติบโตได้มากกว่าหรือน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้
• นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2557(ต.ค.56-ก.ย.57) สามารถจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิ 2,073,912 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 201,088 ล้านบาท หรือ 8.8% เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศที่ชะลอตัว อย่างไรก็ดีเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2558
• นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันราคาน้ำมันขาลง โดยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันลงกว่า 10 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และมีแนวโน้มลงอีก ซึ่งส่วนตัวมองว่ารัฐควรเร่งปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน ก๊าซแอลพีจี และเอ็นจีวี ในช่วงนี้ เพราะเดือนธันวาคมราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้น
• นายเอ็มมานูเอล มาครอน รมต.คลังของฝรั่งเศส เผยมีแผนจะขายสินทรัพย์ของรัฐบาลเป็นมูลค่ามากถึง 1 หมื่นล้านยูโร (1.278 หมื่นล้านดอลลาร์) ในช่วงอีก 18 เดือนข้างหน้า เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ภายใต้แรงกดดันจากประเทศอื่นๆ ในยุโรปที่ต้องการให้ฝรั่งเศสเพิ่มวินัยทางการคลังและการส่งเสริมเศรษฐกิจขยายตัวเพื่อรองรับการจ้างงานหลายล้านตำแหน่ง นอกจากนี้ยังมีมาตรการอื่นๆ เช่น การเปิดเสรีการขนส่ง การผ่อนคลายกฎระเบียบธนาคารในเรื่องการทำงานในวันอาทิตย์เพื่อจำกัดอุปสรรคการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
• ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ปิดทรงตัวในวันนี้ หลังจากร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบราว 18 เดือน เนื่องจากแรงขายทำกำไรได้เข้ามาสกัดปัจจัยบวกจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงเช้า โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 335 ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว ปิดที่ 0.485% ทรงตัวจากระดับปิดเมื่อวานนี้ ส่วนราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปีส่งมอบเดือน ธ.ค.ขยับลง 0.01 จุด แตะที่ 146.24 ที่ตลาดหุ้นโอซาก้า
• สำนักงานพลังงานแห่งชาติจีน(NEA) เปิดเผย ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญรายการหนึ่ง ปรับตัวสูงขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 4.57 แสนล้านกิโลวัตต์/ชั่วโมงในเดือนก.ย. แต่ถึงแม้จะฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ลดลง 1.5% ในเดือนส.ค. แต่ก็ยังคงเพิ่มขึ้นไม่มากนัก ท่ามกลางสัญญาณบ่งชี้ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนอยู่ในภาวะซบเซาอย่างต่อเนื่อง
• สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงพุ่งขึ้น 130 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ11,478 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,241.6 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 14.06 ดอลลาร์สหรัฐ

---