นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.60/62 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวในระดับเดียวกับเปิดตลาดช่วงเช้า ระหว่างวันเงินบาทไปทำโลว์ที่ระดับ 32.59 บาท/ดอลลาร์ และทำไฮที่ระดับ 32.62 บาท/ดอลลาร์ รอปัจจัยใหม่
"ตลาดค่อนข้างเงียบ ปรับตัวในกรอบแคบๆ...ก่อนหน้านี้มีแนวโน้มแข็งค่า แต่มีข่าวเยนเซอร์ไพรส์เข้ามาก็กลับมายืนแถวไฮเดิม" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ระหว่าง 32.55-32.65 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.86 เยน/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเช้าที่ระดับ 112.70 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2500 ดอลลาร์/ยูโร แข็งค่าจากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2475 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,579.18 จุด ลดลง 4.98 จุด, -0.31% มูลค่าการซื้อขาย 56,759.24 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 94.32 ล้านบาท(SET+MAI)
- นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวถึงกรณีธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมว่า ตลาดการเงินหลังจากนี้จะผันผวนมากขึ้น และมีโอกาสจะได้เห็นภาวะ CarryTrade ในสหรัฐฯ ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญเนื่องจากมีผลตอบแทนที่ดี ในส่วนของไทยเองต้องจับตาและเฝ้าระวังอย่างมาก แต่เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบร้ายแรง เพราะไทยยังมีทุนสำรองในระดับสูงและเพียงพอที่จะดูแลความผันผวนในจุดนี้ได้ ส่วนภาวะเงินทุนไหลออกก็ยังไม่น่าเป็นห่วงเพราะสภาพคล่องในระบบยังมี และธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ดูแลใกล้ชิดและเชื่อว่าสามารถดูแลได้
- นางอัมพวัน พิชาลัย รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ(CPI)เดือน ต.ค.57 อยู่ที่ 107.32 เพิ่มขึ้น 1.48% จากเดือน ก.ย.56 แต่ลดลง 0.1% จาก ก.ย.57 ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน(Core CPI) เดือน ต.ค.57 อยู่ที่ 105.08 เพิ่มขึ้น 1.67% จากเดือน ก.ย.56 และเพิ่มขึ้น 0.06% จาก ก.ย.57 ส่วนทั้งปีคาดว่าจะอยู่ที่ 2.14% ซึ่งอยู่ในกรอบที่คาดการณ์ไว้ 2-2.8%
- ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ปรับลดเป้าหมายสินเชื่อในปี 57 ลงเหลือเติบโตต่ำกว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตได้ที่ระดับ 3-4% จากเดิมที่ธนาคารตั้งเป้าเติบโต 5% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวค่อนข้างช้าหลังจากผ่านพ้นวิกฤตการณ์ทางการเมือง โดยในช่วง 9 เดือนแรกเศรษฐกิจไทยเติบโตได้เพียง 1.8-2% ส่วนสินเชื่อของธนาคารในช่วงดังกล่าวเติบโตราว 2%
- นายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ (GBX) เปิดเผยถึง แนวโน้มราคาทองคำในช่วงปลายปี 57 ถึงต้นปีหน้าว่า ราคาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งส่งผลให้เกิด Reverse Dollar Carry trade เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้น นักลงทุนที่กู้เงินดอลลาร์มาลงทุนจะเริ่มทยอยนำเงินไปชำระคืนเงินกู้ ดังนั้น จึงทำให้เงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าได้ในระยะกลางนี้ จึงทำให้ราคาทองคำถูกกดดัน และอยู่ในแนวโน้มขาลงต่อไป
- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า อินโดนีเซียมียอดขาดดุลการค้า 270.3 ล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย.อันเนื่องมาจากยอดนำเข้าน้ำมันจำนวนมาก แต่ลดลงจากยอดขาดดุล 310 ล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค.
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของฝรั่งเศสปรับตัวลดลงแตะ 48.5 ในเดือนต.ค. จากระดับ 48.8 ในเดือนก.ย. บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของฝรั่งเศสยังคงหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของเยอรมนีแตะที่ 51.4 ในเดือนต.ค. หลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนที่ 49.9 ในเดือนก.ย. ซึ่งตัวเลขดังกล่าวถือเป็นการส่งสัญญาณว่า สภาวะการดำเนินงานในภาคการผลิตของเยอรมนีกลับสู่การขยายตัวอีกครั้ง
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสเปนในเดือนต.ค.ทรงตัวที่ระดับ 52.6 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวต่อเนื่องของภาคการผลิตสเปน
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 30 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 10,840 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือราคาเทียบเท่ากับ 1,172.59 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 3.25 ดอลลาร์สหรัฐ