เงินบาทอ่อนค่าแตะ 32.84 ก่อนดีดกลับมาปิดที่ 32.81/82 รอรายงานเฟดคืนนี้

โดยวันนี้เงินบาทอ่อนค่าสุดที่ระดับ 32.84 บาท/ดอลลาร์ และแข็งค่าสุดที่ระดับ 32.79 บาท/ดอลลาร์ แต่โดยรวมเงินบาทค่อนข้างนิ่ง และที่มีฝั่ง offshore ทยอยซื้อดอลลาร์บ้าง โดยคืนนี้จะมีการเปิดเผยรายงานผลประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน( FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ(FED) ขณะที่ในไทยช่วงเช้าได้มีการเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ไปแล้ว แต่ไม่ค่อยมีประเด็นอะไรที่มีผลต่อตลาดมากนัก

นักบริหารเงิน คาดว่า คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.75-32.92 บาท/ดอลลาร์

• ปัจจัยสำคัญ

• เงินเยนอยู่ที่ระดับ 117.57 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 117.10 เยน/ดอลลาร์
• เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2530 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2522 ดอลลาร์/ยูโร
• ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,577.55 ลดลง 3.72 จุด (-0.24%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 40,278 ล้านบาท
• สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 645.97 ลบ.(SET+MAI)
• ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยภาพรวมยอดขายไตรมาส 3 ปีนี้ของ บจ. ใน SET ยังคงเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วและช่วยหนุนให้ยอดขายงวดสะสม 9 เดือนเติบโตเช่นเดียวกัน ซึ่งยอดขายที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากหลากหลายธุรกิจที่สำคัญได้แก่ ธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค อสังหาริมทรัพย์ และธนาคาร รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกสินค้าในบางอุตสาหกรรม เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อาหาร และวัสดุก่อสร้าง
• สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เผยตัวเลขการส่งออกในเดือน ต.ค.ขยายตัวมาที่ 4% ดีกว่าที่คาดการณ์ โดยหาก GDP ในไตรมาส 4 ได้รับผลดีจากการเบิกจ่ายและส่งออกจนขยายตัวได้ถึง 4% ก็จะส่งผลให้ GDP ทั้งปี 57 ขยายตัวได้ 1.4% ตามที่ สศค.คาดการณ์ แต่หาก GDP ไตรมาส 4 ขยายตัวได้ 3% ตัวเลขเศรษฐกิจทั้งปีจะขยายตัว 1% ตามที่สภาพัฒน์คาดการณ์ที่ 1%
• นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวว่า ช่วงนี้รัฐบาลคงไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ออกมาอีกแล้ว แต่จะดำเนินมาตรการที่มีอยู่อย่างจริงจังมากขึ้น เช่น เรื่องการช่วยเหลือคนจนด้วยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ที่จะมอบเป็นของขวัญปีใหม่ และยังมีมาตรการอื่นอีก แต่ต้องขอเวลาคิดระยะหนึ่ง
• นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท.คาดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนไม่เกิน 1.5% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศยังชะลอตัว แต่ในปี 58 คาดขยายตัว 4.0-4.5% หลังเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน
• โฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในเดือนตุลาคม 2557 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 171,498 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 8,352 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.1 โดยการจัดเก็บรายได้ของ 3 กรมจัดเก็บภาษีสังกัดกระทรวงการคลังสูงกว่าเป้าหมาย 1,320 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.9 สาเหตุสำคัญมาจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษียาสูบ และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการบริโภคภายในประเทศที่ยังคงขยายตัว
• ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) แถลงผลหารือมาตรการจัดการกับหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับว่า หลักการคือเป็นการนำมาตรการเสริมมาใช้กับมาตรการเดิมที่ ตลท.มีอยู่แล้วทั้งการขึ้น Trading alert, Cash balance และ Net settlement ซึ่งมาตรการทั้งหมดจะนำเสนอให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) พิจารณาในเดือนนี้ และคาดว่าจะเริ่มใช้ในปี 58
• สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ต.ค.57 อยู่ที่ระดับ 87.5 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 86.1 ในเดือน ก.ย.57
• ส.อ.ท.เผยยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือน ต.ค.57 ส่งออกได้ 93,413 คัน ลดลง 3.54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากการส่งออกรถยนต์ไปยังตลาดตะวันออกกลาง แอฟริกา อเมริกากลาง และอเมริกาได้เริ่มติดลบมา 2-3 เดือนแล้ว ขณะที่มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 43,973 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.48 ทั้งนี้ส่งผลให้ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ต.ค.57) สามารถส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปได้ทั้งสิ้น 932,365 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.25% โดยมีมูลค่าการส่งออกรวม 440,151 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.08%
• นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) กล่าวว่า นโยบายของบีโอเจนั้นส่งผลด้านบวกต่อดีมานด์ภายในประเทศ และบีโอเจต้องการให้รัฐบาลสร้างความมั่นใจเรื่องความยั่งยืนด้านการคลังของประเทศ
• สภาแห่งรัฐ หรือคณะรัฐมนตรีของจีน ได้ประกาศผ่อนคลายการควบคุมการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ (ODI) ขณะที่ผู้ประกอบการจีนเริ่มเข้าไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น
• สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 50 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,100 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,200.72 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.41 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง