น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบบริษัทที่จดทะเบียนนิติบุคคลกับกรมฯ และมีทุนจดทะเบียนสูงผิดปกติแต่ไม่ได้ประกอบธุรกิจ ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีประมาณ 30-40 บริษัทที่เข้าข่าย โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบบริษัท และเรียกตรวจสอบบัญชี รวมทั้งจะประสานให้กรมสรรพากรเข้าไปตรวจสอบด้วย เพราะเกรงว่าจะเป็นการจัดตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อดำเนินการที่ไม่ปกติ หรือตั้งขึ้นมาเพื่อหลอกลวงประชาชน
"บริษัทเหล่านี้ไม่ส่งงบการเงิน หรือบางแห่งมีที่ตั้งอยู่ที่เดียวกัน แต่ตอนจดทะเบียนได้จดทะเบียนทุนจัดตั้งไว้สูงมาก บางรายสูงถึง 500,000 ล้านบาท ซึ่งจริงๆ แล้วไม่น่าจะเป็นไปได้ กรมฯ เป็นห่วงว่าพวกที่ตั้งธุรกิจโดยอ้างว่ามีทุนจดทะเบียนสูงๆ แบบนี้ คงไม่ใช่การทำธุรกิจปกติ อาจจะเป็นธุรกิจหลอกลวง หรือแชร์ลูกโซ่ก็ จึงอยากเตือนให้ประชาชนระมัดระวังให้ดี หรือหากมีข้อสงสัยอะไรก็ให้ตรวจสอบกับกรมฯได้" น.ส.ผ่องพรรณ กล่าว
สำหรับการแก้ไขปัญหาเรื่องทุนจดทะเบียนจัดตั้งนั้น ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.58 เป็นต้นไป กรมฯ จะเพิ่มความเข้มงวดในการจดทะเบียนนิติบุคคล ตามนโยบายของพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ซึ่งจะไม่เน้นในแง่ปริมาณของกิจการที่เข้ามาจด แต่จะเน้นการมีคุณภาพ และความน่าเชื่อถือของธุรกิจ โดยจะเริ่มใช้เกณฑ์การจดทะเบียนใหม่ หรือกำหนดให้ธุรกิจที่มีทุนจดทะเบียนเกิน 5 ล้านบาท ต้องแสดงหลักฐานเงินลงทุนเข้าบริษัทภายใน 15 วัน เพื่อป้องกันการจดทะเบียนทุนไว้สูงๆ แต่ไม่มีเงินจริง ทั้งนี้ การกำหนดเกณฑ์ดังกล่าว จะไม่กระทบกับธุรกิจส่วนใหญ่ เพราะสัดส่วนธุรกิจตั้งใหม่ที่มีเงินทุนเกิน 5 ล้านบาท มีเพียงแค่ 4-5% เท่านั้น ที่เหลือ 95% เป็นธุรกิจที่มีเงินทุนไม่เกิน 5 ล้านบาท