(เพิ่มเติม) ม.หอการค้า เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ธ.ค.ที่ 81.1 สูงสุดรอบ 18 เดือน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 7, 2015 12:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ธ.ค.57 อยู่ที่ 81.1 จาก 79.4 ในเดือน พ.ย.57 โดยเป็นการปรับตัวดีขึ้นสูงสุดในรอบ 18 เดือน หลังจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างมาก

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 70.5 จาก 68.8 ในเดือนก่อนหน้า ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 74.6 จาก 73.1 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 98.3 จาก 96.3

ปัจจัยบวก ได้แก่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2%, ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวลดลง, การจัดงานลดราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับร้านค้าปลีกและห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศช่วยทำให้เกิดการตื่นตัวในการจับจ่ายใช้สอย

ขณะที่ปัจจัยลบ ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ลดคาดการณ์ GDP ปี 57 เหลือ 0.8% จากเดิมที่คาดโต 1.5% พร้อมลดคาดการณ์ GDP ปี 58 เหลือ 4% จากเดิมคาด 4.8%, การส่งออกของไทยเดือน พ.ย.57 ลดลง 1%, ราคาสินเค้าเกษตรยังทรงตัวในระดับต่ำ, เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงเล็กน้อย, ผู้บริโภคยังกังวลเกี่ยวกับปัญหาค่าครองชีพ รวมทั้งความไม่แน่นอนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ธ.ค.ปรับตัวดีขึ้นสูงสุดในรอบ 18 เดือนนับตั้งแต่การสำรวจในเดือน ก.ค.56 เนื่องจากทุกรายการปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ผู้บริโภครู้สึกว่าราคาน้ำมันที่ลดลงช่วยทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายและมีเงินเหลืออยู่ในกระเป๋ามากขึ้น นอกจากนี้ มาตรการลดราคาสินค้าทั่วประเทศ 20-70% ในช่วงเทศกาลปีใหม่ยังสร้างจิตวิทยาในเชิงบวกในการกระตุ้นกำลังซื้อได้เป็นอย่างดี

“ราคาน้ำมันได้ปรับลดลงมาจนสู่ระดับที่มีผลทางจิตวิทยา จนทำให้คนรู้สึกว่ามีเงินในกระเป๋ามากขึ้น ซึ่งโดยเฉพาะเดือนธ.ค.ราคาน้ำมันที่ลดลง 2-3 บาท/ลิตร ทำให้ประชาชนประหยัดค่าน้ำมันไปได้ถึง 5 พันล้านบาท แต่หากนับตั้งแต่มิ.ย.จนถึง ธ.ค.ก็คาดว่าจะประหยัดค่าน้ำมันไปได้ถึง 1 หมื่นล้านบาทจากการที่น้ำมันราคาถูกลง จึงทำให้การจับจ่ายใช้สอยในช่วงปีใหม่กลับมาคึกคัก"นายธนวรรธน์ กล่าว

พร้อมประเมินว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีโอกาสจะปรับลดลงไปอยู่ที่ระดับ 40 ดอลลาร์/บาร์เรลได้ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศไทยลดลงไปได้อีกลิตรละประมาณ 2 บาท

ทั้งนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ คาดการณ์ว่าการบริโภคของภาคประชาชนในช่วงไตรมาสแรกปีนี้จะเริ่มฟื้นตัวขึ้น แต่อาจยังฟื้นได้ไม่มากนักแม้ระดับราคาน้ำมันจะทรงตัวในระดับต่ำ เนื่องจากประชาชนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก รวมทั้งระดับราคาพืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะข้าว และยางพาราที่ยังมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับต่ำด้วย

อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของการบริโภคจะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับการเร่งเบิกจ่ายเงินลงทุนของภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นสำคัญในช่วงที่การส่งออกและการท่องเที่ยวยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความผันผวนอยู่

นายธนวรรธน์ กล่าวด้วยว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคอาจไม่ได้ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน เพราะในครั้งนี้ล้วนมาจากแรงกระตุ้นเฉพาะกิจ ทั้งในเรื่องของราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง, มหกรรมลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วประเทศ และการจ่ายเงินชดเชยให้แก่ชาวนาและชาวสวนยาง แต่อย่างไรก็ดี เป็นสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ในช่วงขาขึ้น และจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นอย่างโดดเด่นได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เป็นต้นไป

สำหรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ยังคงคาดว่า ในปี 58 GDP จะเติบไตได้ 3.5-4% โดยประเมินว่าในช่วงครึ่งปีแรก GDP จะเติบโตในช่วง 2.5-3% และครึ่งปีหลัง GDP จะเติบโตได้ 4.5-5% ซึ่งแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ 4 ตัวสำหรับปีนี้ ประกอบด้วย 1.การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ 2.การท่องเที่ยว 3.การใช้จ่ายของภาคเอกชน และ 4.การส่งออก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ