พร้อมระบุว่า คตง.จะพิจารณาและวินิจฉัยผลการตรวจสอบหน่วยรับตรวจของ สตง.อย่างละเอียดรอบคอบ โปร่งใส เป็นธรรม และปราศจากอคติ ซึ่งหากเห็นว่าหน่วยรับตรวจสามารถแก้ไขข้อบกพร่องหรือปฏิบัติให้ถูกต้องได้ ก็จะแจ้งให้แก้ไขหรือปฏิบัติให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่หากหน่วยรับตรวจไม่ดำเนินการแก้ไขหรือปฏิบัติให้ถูกต้องก็จะดำเนินการลงโทษทางวินัยหรือดำเนินคดีอาญาแก่เจ้าหน้าที่และผู้บังคับบัญชาอย่างเต็มที่ โดยจะนำ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 มาตรา 63 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 มาบังคับใช้อย่างจริงจัง
"หากผู้รับตรวจ และหน่วยรับตรวจละเลยไม่ดำเนินการตามคำสั่งของ สตง.ให้ถือว่ากระทำผิดวินัย และยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้ที่โดยมิชอบอีกด้วย ที่ผ่านมา สตง.ยังไม่เคยบังคับใช้กฎหมายนี้อย่างจริงจัง คนจึงมองว่าเราเป็นเพียงเสือกระดาษ" นายชัยสิทธิ์ กล่าวอย่างไรก็ดี สำหรับการตรวจสอบในด้านรายจ่าย การใช้เงินและทรัพย์สินของแผ่นดินนั้น สตง.จะยังคงมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้นต่อไป พร้อมกับขอให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจเงินแผ่นดิน เช่น การจัดให้มีอาสาสมัครตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อเป็นหูเป็นตา ช่วยแจ้งเบาะแสและข้อมูลการทุจริตประพฤติมิชอบของหน่วยงานรับตรวจการจัดเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมต่อไป