นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.35/36 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิดตลาดช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.32/33 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค รอปัจจัยใหม่ที่ส่งผลต่อค่าเงินเข้ามา
"เปิดตลาดอ่อนค่าขึ้นมาจากเย็นวานนี้ วันนี้น่าจะแกว่งตัวในกรอบตามแรงซื้อขายดอลลาร์" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 32.30-32.40 บาท/ดอลลาร์
ขณะนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ตลาดรอดูการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในคืนวันศุกร์ และผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในสัปดาห์หน้า
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.3500 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(2 มี.ค.) อยู่ที่ 2.04434% และ THAI BAHT FIX 6M(2 มี.ค.) อยู่ที่ 1.97680%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.91 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 119.87 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1190 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1216 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.3550 บาท/ดอลลาร์
- แบงก์ชาติเผยผลการสำรวจภาคธุรกิจล่าสุด ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการยังคงรอแรงขับเคลื่อนหลักจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยโดยรวมและการลงทุนภาครัฐ ธปท.ห่วงถ้าส่วนนี้ยังไม่เกิดกระทบการลงทุนเอกชนซบเซาหรือเลื่อนออกไปอีก พบธุรกิจผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค เสื้อผ้า ยานยนต์และชิ้นส่วน เฟอร์นิเจอร์ อสังหาริมทรัพย์ยังรอการฟื้นตัวอุปสงค์ใน-ต่างประเทศ ขณะที่ธุรกิจโทรคมนาคม สื่อสาร อสังหาริมทรัพย์บางส่วนรอความคืบหน้าลงทุนภาครัฐ
- รมว.คลังเตรียมเสนอ ครม.วันนี้พิจารณากลไกเร่งรัดเบิกจ่ายงบรัฐ แย้มแก้แนวทางปฏิบัติพร้อมสร้างความเข้าใจให้มากขึ้น ด้าน 'หม่อม อุ๋ย' การันตีนายกฯ ไม่เคยพูดเรื่องปรับ ครม. 3 กระทรวงเศรษฐกิจ
- กกร.ถก "ส่งออก-ค่าเงินบาทแข็งค่า" วันนี้ หลังพบเศรษฐกิจโลกแต่ละประเทศยัง ขยายตัวไม่ดี หั่นเป้าการส่งออกใหม่เหลือ 2.5% สรท.โอดค่าเงินผันผวนกระทบส่งออกหนัก เฉพาะตลาดยุโรปเจอศึกหนักรายได้หายเดือนละ 6,000 ล้านบาท ขณะที่ผู้ซื้อเริ่มขอลดราคาสินค้าแล้ว15% จี้แบงก์ชาติดูแลค่าบาท คาดส่งออกไตรมาสแรกติดลบ2%
- China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนปรับตัวลง 0.30% แตะที่ 6.1543 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย.ร่วงลง 4.90 ดอลลาร์ หรือ 0.40% ปิดที่ระดับ 1,208.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน พ.ค.ลดลง 10.70 เซนต์ ปิดที่ 16.451 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้น 4.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,189.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มิ.ย.พุ่งขึ้น 11.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 831.10 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากสหรัฐ และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) ปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.ลดลง 17 เซนต์ ปิดที่ 49.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน เม.ย.ร่วงลง 3.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 59.54 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ ขณะที่ยังคงมีการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐออกมาไม่สดใสนัก โดยค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1188 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1193 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5365 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5434 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.15 เยน เทียบกับระดับ 119.68 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9596 ฟรังก์ จาก 0.9542 ฟรังก์ ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7769 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7811 ดอลลาร์
- สำนักงานสถิติแห่งชาติของออสเตรเลีย เผยยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของออสเตรเลียในช่วงไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ลดลงกว่า 21% สู่ระดับ 9.588 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย(7.44 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) หลังจากมียอดขาดดุล 1.2130 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในช่วงไตรมาสก่อนหน้า ส่วนหนี้สินต่างประเทศของออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะ 9.248 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว เทียบกับ 8.868 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในไตรมาส 3