นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.91/93 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับเดียวกัน
สำหรับการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้คาดว่าทิศทางยังมีโอกาสอ่อนค่าได้ต่อตลอดทั้งสัปดาห์ เช่นเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค เนื่องจากหลายปัจจัยทั้งในและต่างประเทศยังสนับสนุนการแข็งค่าของสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ
"เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าในสัปดาห์นี้ จากปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ ในประเทศ คือตั้งแต่ กนง.ลดดอกเบี้ย เงินบาทก็อ่อนค่าลง ขณะที่สกุลดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับทุกสกุล โดยเฉพาะเงินยูโรที่อ่อนค่าลง จากที่มีการเข้าซื้อดอลลาร์กันมากขึ้น" นักบริหารเงิน กล่าวโดยคาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.85-32.95 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 121.28 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 121.42/45 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.0525 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0600 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.8210 บาท/ดอลลาร์
- "ศุภวุฒิ" ชี้ไทยเสี่ยงเผชิญเงินฝืด จากเงินเฟ้อโลกที่ลดลงหนัก แม้ราคาสินค้าบางประเภทยังปรับขึ้นบ้าง พร้อมประเมินอนาคตเศรษฐกิจเริ่มเติบโตยาก จากภาวะหนี้ที่สูง ทั้งประชากรอยู่ในวัยสูงอายุมากขึ้น ดึงกำลังซื้อหาย ขณะที่จีนเข้าสู่ช่วงปรับโครงสร้าง ทำเศรษฐกิจโตชะลอ
- ผู้ว่าการ ธปท.เผยเศรษฐกิจไทยขณะนี้ต้องเผชิญโรคไข้หวัดใหญ่ โรคข้อเข่าเสื่อม และโรคขาดความมั่นใจ บทบาทนโยบายการเงินช่วยจ่ายยาให้โรคบรรเทาเท่านั้น แต่ต้องอาศัยบทบาทภาครัฐ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นส่วนที่เหลือ ยอมรับภาครรัฐตอนนี้มีบทบาทต่อประเทศหลายด้านพร้อมกัน ทำให้การใช้จ่ายรัฐชะลอ
- นายแบงก์มองเงินบาทแนวโน้มอ่อนค่า ช่วยส่งออกได้บ้างแต่ไม่มาก คาดสัปดาห์นี้เคลื่อนไหว 32.70-33.00 จับตาผลประชุมเฟด 17-18 มี.ค. เตือนการลดดอกเบี้ยของ กนง.ไม่ได้ช่วยเศรษฐกิจอย่างแท้จริง คาดครั้งหน้าอาจจะมีการปรับลดอีกรอบ
- นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังยังไม่มีแนวคิดที่จะเพิ่มอัตราจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) จากปัจจุบันที่จัดเก็บอยู่ในอัตรา 7% ซึ่งลดหย่อนจากเพดานจัดเก็บที่ 10% แม้ว่าก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากไม่ดำเนินการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ก็จะต้องขึ้นแวต เพื่อให้รัฐบาลมีรายได้ก็ตาม
- สินเชื่อแบงก์ 2 เดือนแรกทรงตัว สะท้อนเศรษฐกิจไตรมาสแรกฟื้นช้า ปัญหาความเชื่อมั่น ลงทุน-หนี้ครัวเรือน ขณะธุรกิจพลังงานยังเติบโต ส่วนอสังหาริมทรัพย์ภาพรวมชะลอ แต่กลับมาลงทุนในกรุงเจาะกลุ่มไฮเอนด์ ที่ยังมีกำลังซื้อ ชี้ลดดอกเบี้ยช่วยไม่มาก
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งแกร่งเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อวันศุกร์ (13 มี.ค.) ขณะที่การประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้าได้กระตุ้นกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดอ่อนแรงลงเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันในตลาดโลกยังคงถ่วงตลาดน้ำมัน โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดร่วง 2.21 ดอลลาร์ หรือ 4.7% แตะที่ 44.84 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ปิดปรับลง 2.41 ดอลลาร์ ที่ 54.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกง ปรับตัวลง 38 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 10,710 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,158.53 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 4.11 ดอลลาร์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง
- กระทรวงการคลังสหรัฐได้ขยายมาตรการฉุกเฉินเพิ่มเติม เพื่อซื้อเวลาให้ยังคงสามารถชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ หลังจากรัฐบาลจะมีหนี้สินชนเพดานในสัปดาห์นี้ โดยนายจาค็อบ ลิว รมว.คลังสหรัฐระบุในจดหมายฉบับล่าสุดที่ส่งไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ว่า กระทรวงการคลังจะระงับการลงทุนใหม่ของกองทุนบำเหน็จบำนาญรัฐบาล 2 กองทุนนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.เป็นต้นไป เนื่องจากสภาคองเกรสไม่ได้ดำเนินการเพื่อเพิ่มเพดานหนี้สิน
- ธนาคารกลางรัสเซียประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1% สู่ระดับ 14% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อลดความเสี่ยงเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่มีความรุนแรงมากขึ้น พร้อมระบุว่า ธนาคารพร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก หากความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อบรรเทาลง โดยการประชุมนโยบายการเงินครั้งต่อไปของธนาคารกลางรัสเซียมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 30 เม.ย.