เงินบาทปิด 32.74/76 แกว่งแคบไร้ปัจจัยใหม่ คาดสัปดาห์หน้า 32.60-32.85

ตลอดทั้งวันนี้เงินบาทแกว่งอยู่ในกรอบแคบๆ เพราะไม่มีปัจจัยที่มีผลต่อตลาด การเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้จึงเป็นไปตามกระแสการไหลเข้าออกของ flow เป็นสำคัญ

"บาทวันนี้ผันผวนอยู่ในกรอบแคบๆ เพราะไม่มีปัจจัยอะไรที่สำคัญ เคลื่อนไหวไปตาม flow" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า สัปดาห์หน้าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.60-32.85 บาท/ดอลลาร์

• ปัจจัยสำคัญ

• เงินเยนอยู่ที่ระดับ 121.12/16 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 120.70 เยน/ดอลลาร์
• เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0680/0684 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0681 ดอลลาร์/ยูโร
• ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,529.96 ลดลง 2.17 จุด (-0.14%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 44,752 ล้านบาท
• สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 398.15 ลบ.(SET+MAI)
• ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP) ของไทยในปี 58 เหลือเติบโตที่ 3.8% จากคาดการณ์เดิมที่ 4% ส่วนในปี 59 คาดว่าจะขยายตัวได้ต่อเนื่องในระดับ 3.9% หลังเศรษฐกิจไทยในปี 58 มีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าที่เคยประเมินไว้และมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและอินเดีย การใช้จ่ายภาครัฐมีแนวโน้มล่าช้ากว่าคาด โดยเฉพาะงบลงทุน การใช้จ่ายภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจชะลอตัวลงจากความเชื่อมั่นที่ถูกบั่นทอนลงจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ด้านมูลค่าการส่งออกลดลงจากคาดการณ์เดิม เพราะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าขยายตัวต่ำกว่าคาด และราคาสินค้าส่งออกปรับตัวลดลงจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก
• พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงการสั่งชะลอปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เป็น 10% ที่จะสิ้นสุดมาตรการผ่อนผันในเดือน ก.ย.58 ว่า ปีนี้คงต้องชะลอการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มออกไปก่อนจนกว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นแล้วค่อยมาว่ากันอีกทีหนึ่ง
• ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เผยรัฐบาลไม่มีแนวคิดจะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) จากที่จัดเก็บอยู่ 7% ให้เป็น 10% เต็มเพดาน โดยจะต่ออายุการใช้อัตราดังกล่าวต่อไป หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพราะหากปรับขึ้นก็จะส่งผลกระทบต่อประชาชน ขณะเดียวกันยังมั่นใจว่าเศรษฐกิจของไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ถึง 4% แม้หลายสำนักจะปรับลดคาดการณ์ลงมา เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลเร่งรัดการเบิกจ่ายทุกด้าน หลังจากช่วง 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 58 จะมีการเบิกจ่ายล่าช้า แต่ 2 เดือนหลังขยับดีขึ้น โดยเชื่อว่าจะสามารถเบิกจ่ายได้ 90% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
• ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้แทบไม่เปลี่ยนแปลง โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับไม่ถึง 0.1% แตะ 400.85 เมื่อเวลาประมาณ 08.10 น.ตามเวลาลอนดอน นักลงทุนต่างให้ความสนใจกับการเจรจากันระหว่างกรีซและกลุ่มยูโรกรุ๊ป ขณะที่ตลาดยังไม่มีปัจจัยหนุนที่โดดเด่น ภายหลังจากที่รับทราบท่าทีเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ
• รัฐบาลญี่ปุ่นมีแนวโน้มจะปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจในเดือน มี.ค.เป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน ขณะที่ผลกำไรขององค์กร และภาคการผลิตปรับตัวดีขึ้นเพราะได้รับแรงหนุนจากภาคการส่งออกที่คึกคัก อย่างไรก็ตามรัฐบาลอาจจะไม่ได้ระบุถึงแนวโน้มที่ดีเกี่ยวกับด้านการใช้จ่ายของภาคเอกชนในรายงานเศรษฐกิจประจำเดือนนี้ที่มีกำหนดจะเปิดเผยในวันจันทร์หน้า เนื่องจากการใช้จ่ายในภาคเอกชนยังคงซบเซาหลังจากที่มีการปรับขึ้นภาษีผู้บริโภคเมื่อเดือน เม.ย.57
• ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปิดทรงตัววันนี้ เนื่องจากแรงซื้อเก็งกำไรได้ช่วยชดเชยคำสั่งขายในช่วงก่อนหน้านี้ที่เป็นผลมาจากการร่วงลงของราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเมื่อคืนนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 338 ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว ปิดที่ 0.320% ทรงตัวอยู่ที่ระดับปิดเมื่อวานนี้ ขณะที่ราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปี ส่งมอบเดือน มิ.ย.ทรงตัวที่ระดับ 147.90 ที่ตลาดหุ้นโอซาก้า
• สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 50 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 10,850 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือราคาเทียบเท่ากับ 1,173.67 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.41 ดอลลาร์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง

---