นักบริหารเงิน ประเมินเงินบาทยังคงมีแนวรับสำคัญที่ 32.30 บาท/ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านมองว่าแถว ๆ 32.40 ต้นๆ ถ้าขึ้นไปได้ก็อาจจะอ่อนค่าไปแถวๆ 32.50 แต่เบื้องต้นประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 32.30-32.50 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.3950 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(16 เม.ย.) อยู่ที่ 1.81427% และ THAI BAHT FIX 6M(16 เม.ย.) อยู่ที่ 1.77881%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.06 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 119.20 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0765 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.0675 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารอยู่ที่ 32.4200 บาท/ดอลลาร์
- แบงก์ชาติเผยเศรษฐกิจชะลอทำผู้ถือบัตรเครดิตและผู้ใช้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลระวังตัว ล่าสุดยอดการใช้จ่ายบัตรเครดิตลดลง 8 กว่าพันล้านบาท หรือหดตัว 6.13% พบการใช้จ่ายใน-นอกประเทศ เบิกเงินสดล่วงหน้าลดลง และยอดสินเชื่อบัตรเครดิตลดลง ขณะที่นอนแบงก์ทั้งยอดสินเชื่อส่วนบุคคลและจำนวนบัญชีลดลง 192 ล้านบาท และลดลง 5.57 พันบัญชี
- นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อวันที่ 16 เม.ย. ซึ่งปิดตลาดที่ 32.40/42 บาท/เหรียญสหรัฐ จาก 32.54/56 บาท/เหรียญสหรัฐ เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว มีปัจจัยจากเงินเหรียญสหรัฐกลับมาอ่อนค่า เพราะเศรษฐกิจ ไม่ดีเท่าที่ควร ตลาดเกรงว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจไม่ขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะเดียวกันการนำเข้าที่หดตัวแรงกว่าการส่งออก ทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดยังเกินดุล
- นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมมีแผนผลักดันการส่งออกสินค้าไทยให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยจะเน้นการส่งออกไปตลาดใหม่ที่มีศักยภาพได้แก่ อาเซียน จีน ตะวันออกกลาง ละตินอเมริกา รัสเซียและซีไอเอส และแอฟริกา ซึ่งจะทำควบคู่ไปกับการรักษาตลาดหลักทั้งสหรัฐฯ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป (อียู) เพราะจากการหารือกับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(ทูตพาณิชย์) หลายประเทศยังยืนยันว่า การส่งออกไทยปีนี้ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี แม้เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจคู่ค้ายังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ จะเน้นผลักดันการส่งออกเป็นรายตลาด และรายสินค้าให้มากขึ้นเพราะบางตลาด แม้เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว แต่กำลังซื้อของคนบางกลุ่ม หรือบางสินค้า มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น
- กรุงไทยเล็งปรับเป้าสินเชื่อหลังเศรษฐกิจชะลอ มองครึ่งหลังยังมีแนวโน้มชะลอตัวเหตุความเชื่อมั่นหด จีดีพีโตต่ำกว่าคาดที่ 4% ชี้ไตรมาสแรกสินเชื่อยังโตน้อยหลังภาครัฐและรายใหญ่ชำระคืนเงินกู้ ส่วนรายย่อยและเอสเอ็มอียังโตได้ดี หวังรัฐรักษาเสถียรภาพการเมืองพร้อมผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ และดึงเงินลงทุนต่างชาติหนุนเศรษฐกิจครึ่งหลังฟื้น พร้อมรับเอ็นพีแอลไตรมาสแรกยังเพิ่มขึ้นทั้งระบบ ระบุหากยังเพิ่มอาจต้องปรับเกณฑ์การตั้งสำรองเพิ่ม
- ศูนย์ข้อมูลเผย ผลสำรวจดัชนีราคาที่อยู่อาศัย ไตรมาส 1/58 พบ ราคาห้องชุดปรับขึ้น 4.7% ราคา 80,000-120,000 แสนบาท/ตร.ม. ปรับขึ้นมากสุด 6% ขณะที่เขตห้วยขวาง จตุจักร ปทุมวัน ราคาปรับขึ้นมากที่สุด ส่วนบ้านเดี่ยว เพิ่มขึ้น 3.5% ขณะที่ทาวน์เฮาส์ปรับขึ้น 3.4%
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (16 เม.ย.) เนื่องจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ครั้งแรกของสหรัฐเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่ยังไม่สงบ รวมถึงเหตุการณ์สู้รบในเยเมน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ระบุว่า ปริมาณน้ำมันจากสหรัฐจะเริ่มลดลงช่วงครึ่งหลังปีนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ ปิดที่ 56.71 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ ปิดที่ 63.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 เม.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาส่งสัญญาณดังกล่าว
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 3.3 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ระดับ 1,198.00 ดอลลาร์/ออนซ์
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกง ปรับตัวลง 40 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,110 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,203.35 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 4.33 ดอลลาร์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 11 เม.ย. เพิ่มขึ้น 12,000 ราย แตะ 294,000 ราย
- กระทรวงพาณิชย์ สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้าน เดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 2% สู่ระดับ 926,000 ยูนิตในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่เดือนก.พ.อยู่ที่ 908,000 ยูนิต ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังคงถูกกดดัน แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจำนองอยู่ในระดับต่ำ และมีการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง
- รัฐบาลกรีซได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า กรีซได้ขอเลื่อนชำระหนี้ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในเดือนพ.ค. เนื่องด้วยปัญหาสภาพคล่อง