นอกจากนี้ ตลาดยังรอจับตาผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 29 เม.ย.นี้
นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่ 32.30-32.40 บาท/ดอลลาร์
*ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.65/70 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 119.44 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0724/27 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 1.0689 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.4230 บาท/ดอลลาร์
- ดอลลาร์สหรัฐขยับลงเล็กน้อยเมื่อเทียบยูโรและปรับตัวขึ้นลงแตกต่างกันเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (21 เม.ย.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของกรีซ
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (21 เม.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้น โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ในคืนวันพุธตามเวลาไทย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 1.12 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 1.37 ดอลลาร์ ปิดที่ 62.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 เม.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 9.4 ดอลลาร์ หรือ 0.79% ปิดที่ระดับ 1,203.10 ดอลลาร์/ออนซ์
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 60 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,110 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,203.35 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 6.49 ดอลลาร์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง
- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าเดือนมี.ค.อยู่ที่ 2.293 แสนล้านเยน (1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งถือเป็นการเกินดุลการค้าครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี
รายงานเบื้องต้นของกระทรวงระบุว่า ยอดส่งออกเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 8.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่การนำเข้าร่วงลง 14.5%
- สภาแห่งรัฐ หรือคณะรัฐมนตรีจีน เปิดเผยในวันนี้ว่าจะมีการประกาศใช้มาตรการเพิ่มมากขึ้นเพื่อสนับสนุนการสร้างงาน ขณะที่เศรษฐกิจจีนกำลังชะลอตัว