นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 32.79/80 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 32.63/65 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าหลังรู้ผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25%
"ช่วงเช้าแกว่งในกรอบ 32.63-32.67(บาท/ดอลลาร์) พอรู้ผล กนง.ที่ surprise ตลาดอีกครั้ง เงินบาทก็อ่อนค่าไปทำไฮที่ 32.82(บาท/ดอลลาร์)" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินทิศทางเงินบาทในวันพรุ่งนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.75-32.90 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดรอดูการแถลงมาตรการผ่อนคลายเงินทุนไหลออกของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ในวันพรุ่งนี้ ส่วนปัจจัยต่างประเทศเป็นเรื่องการประชุม FOMC
"ทิศทางอ่อนค่าแน่นอน ต้องรอดูแถลงของ ธปท.พรุ่งนี้ด้วย เงินบาทมีโอกาสไปแตะ 33.00(บาท/ดอลลาร์)" นักบริหารเงิน กล่าว
สำหรับ THAI BAHT SPOT RATE FIXING ล่าสุดปรับมาที่ 32.7567 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 118.80 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 118.80 บาท/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0970 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0970 ดอลลาร์/ยูโร
- คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาที่ 1.50% หลังประเมินว่าเศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวต่ำกว่าคาด พร้อมยอมรับว่ามีความเสี่ยงเรื่องเงินฝืดมากขึ้น แต่ยังไม่ถึงกับต้องกังวล แต่ต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด
- นายเมธี สุภาพงษ์ เลขานุการ คณะกรรมกานนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (30 เม.ย.) ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะแถลงมาตรการผ่อนคลายเงินทุนไหลออกเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยดูแลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน หลังจากที่ผ่านมาเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศคู่ค้าและคู่แข่งด้านการส่งออก
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 58 เหลือขยายตัว 3.7% หรือมีช่วงคาดการณ์ที่ 3.2-4.2% จากคาดการณ์เดิมที่ประเมินว่าจะเติบโตราว 3.9% เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจเติบโตช้ากว่าคาด และการส่งออกฟื้นตัวช้า โดยคาดว่าจะเติบโตเพียง 0.2% ต่ำกว่าเดิมที่คาดว่าจะเติบโตได้ 1.4%
- สศค.ระบุว่าไตรมาส 1/58 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ราวร้อยละ 3.2 ขณะที่การส่งออกหดตัวถึงร้อยละ 4.7 แต่การใช้จ่ายในประเทศเริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชน ทำให้มีสัญญาณที่ดีขึ้น
- นายไมเคิล คลอสส์ เอกอัคราชทูตเยอรมนีประจำประเทศจีนได้กล่าวแสดงความเห็นในด้านบวกว่า ธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) จะมีมาตรฐานเดียวกับธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
- ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ เปิดเผยว่า สหรัฐไม่ขัดข้องหากประเทศอื่นจะเข้าร่วมกับธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) ที่จีนเป็นแกนนำ และระบุว่าสหรัฐมุ่งหวังที่จะได้ร่วมมือกับสถาบันระหว่างประเทศแห่งใหม่นี้
- รัฐบาลกรีซได้ดำเนินการร่างกฎหมายที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการปฏิรูปที่ได้ให้คำมั่นไว้ว่าจะดำเนินการเพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือที่จำเป็นต่อการพยุงเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซิปราสของกรีซ มีมุมมองบวกว่ากรีซใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงในการเจรจากับเจ้าหนี้ต่างประเทศ