เงินบาทเปิด 35.38/39 อ่อนค่าต่อเนื่องรับผลจีนลดค่าเงินหยวน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 13, 2015 10:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ 35.38/39 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ได้รับผลกระทบจากการปรับค่าเงินหยวนของจีน โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดบ้านเราหยุดทำการไปเมื่อวานนี้ เงินหยวนอ่อนค่าลงไปอีก 2% รวมเป็น 4% ตั้งแต่ปรับค่าเงิน ซึ่งทำให้เงินบาทแกว่งตัวผันผวนและลงไปลึกถึง 35.57 บาท/ดอลลาร์ก่อนจะดีดขึ้นมาได้บ้าง
"การที่จีนปรับ fixing ของเขาทำให้หยวนอ่อนไปแล้ว 4% มันทำให้ currency อื่นๆ อ่อนค่าลงทั้งภูมิภาคทั้งดอลลาร์สิงคโปร์ โดยเฉพาะริงกิตมาเลเซียร่วงลงมากอย่างผันผวน เราเคยมองว่าบาทอาจจะไปที่ 36-36.50 แต่ตอนนี้มัน beyon ไปกว่านั้น เมื่อวานจีนประกาศว่าจะมีการประชุมเรื่องค่าเงินอีกครั้งในวันนี้ก็ต้องรอดูช่วงบ่าย"นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่าโดยจะต้องติดตามการประชุมของทางการจีนในช่วงบ่ายวันนี้

*ปัจจัยสำคัญ

  • เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 124.30/35 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันอังคารที่ 124.78 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1136/1140 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวันอังคารที่ระดับ 1.1024 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.2960 บาท/ดอลลาร์
  • ธนาคารกลางจีนได้ปรับลดค่าเงินหยวนอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนในตลาดการเงิน และเศรษฐกิจจีนที่อาจจะอยู่ในภาวะที่ย่ำแย่กว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ขานรับความเคลื่อนไหวของจีนในการปรับปรุงระบบการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และระบุว่าอัตราแลกเปลี่ยนที่อิงกับตลาดมากขึ้นจะส่งผลดีต่อการดำเนินงานตะกร้าสกุลเงิน SDR (Special Drawing Right) หากมีการรวมเงินหยวนไว้ในตะกร้าสกุลเงินดังกล่าว
  • คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เตรียมหารือผลกระทบจีนประกาศลดค่าเงินหยวน 1 ก.ย.นี้ ระบุต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด คาดระยะสั้นกระทบไม่มาก หวั่นจีนลดนำเข้าสินค้าไทย เสียตลาดส่งออกเนื้อไก่ไปญี่ปุ่นให้จีน เหตุราคาสินค้าจีนถูกลง ห่วงกลุ่มสินค้าอาหาร อิเล็กทรอนิกส์ และวัสดุก่อสร้าง ได้รับผลกระทบ
  • ครึ่งปีแรก 2558 ปัจจัยลบอื้อ เศรษฐกิจชะลอตัว หนี้ครัวเรือนสูง แบงก์เข้มปล่อยกู้ ยอดรีเจคพุ่ง ผู้ประกอบการปรับแผนรับมือเลื่อนเปิดโครงการใหม่ พัฒนาโครงการเล็ก ส่งผลกระทบยอดขายครึ่งปีพลาดเป้า เชื่อครึ่งปีหลังสถานการณ์ไม่แตกต่าง คาดฉุดตลาดอสังหาฯ ปี 58 ติดลบ 5-10%
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงผลดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 8 แห่ง พบว่า สินเชื่อรวมขยายตัวได้ต่อเนื่อง คุณภาพสินเชื่ออยู่ในเกณฑ์ดี และมีเงินกันสำรองในระดับที่สูง มีการผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่อง และมีเงินกองทุนอยู่ในระดับที่เพียงพอต่อการดำเนินงานในระยะต่อไป
  • อุตสาหกรรมเดินหน้าผลักดัน 7 ยุทธศาสตร์พัฒนาวงการอุตสาหกรรมไทย เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งในเออีซี เปิดช่องนำรายได้จากตลาดเออีซีเข้าประเทศกระตุ้นเศรษฐกิจไทย
  • ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้หารือกับรัฐมนตรีจากกระทรวงเศรษฐกิจ เพื่อหาแนวทางผลักดันวิสาหกิจเพื่อสังคม (โซเชียล บิสเนส) ให้เกิดขึ้นภายใน 1 เดือน ตามข้อสั่งการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยจากนี้กระทรวงการคลังจะกลับไปทำมาตรการจูงใจให้บริษัทเอกชนทั้งขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ร่วมกันลงทุนจัดตั้งกิจการใหม่ที่เน้นดูแลสังคม โดยอาจออกเป็นพระราชกฤษฎีกาตามประมวลรัษฎากร เพื่อให้สิทธิเอกชนนำเงินที่มาลงทุนในกิจการเพื่อสังคมไปหักภาษีได้
  • สศอ. จ่อปรับดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม หรือ MPI รวมทั้ง GDP อุตสาหกรรมใหม่หลังไตรมาส 3 การส่งออกติดลบหนัก ด้าน สอท. ประเมินการลงทุนภาคเอกชนจะฟื้นตัวได้ในปี’60 เหตุเศรษฐกิจโลกไม่ฟื้น การเมืองยังไม่นิ่ง การเจรจาการค้าสะดุด อุตสาหกรรมขาดการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันถดถอย
  • "พลังงาน" ส่งสัญญาณมีข่าวดี หลังน้ำมันโลกลดต่อเนื่อง เผยแนวโน้มค่าไฟงวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค.) จะลดลงอีก แต่คงไม่ถึง 9.35 สต./หน่วย ตามที่เคยคาดการณ์ไว้ หลังบาทอ่อนค่าแรงจัด เรกูเลเตอร์แย้มอาจลด 5-6 สต./หน่วย ขณะที่แอลพีจี ก.ย. ก็มีแนวโน้ม ลดลงเช่นกัน จับตาประชุม กพช. วันนี้ ถกเคาะแผนลงทุนท่อน้ำมันไปเหนือ-อีสาน ปลดแอก กฟผ. ออกจากสิทธิพิเศษที่ต้องซื้อเชื้อเพลิงจาก ปตท. รายเดียว
  • ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.5% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลงในรอบสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาน้ำมันร่วงลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ ปิดที่ 43.3 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 49.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนไม่แน่ใจว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. หลังจากที่สกุลเงินหยวนของจีนร่วงลงอย่างหนัก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ