เงินบาทปิด 35.62/66 แกว่งแคบ-ไร้ปัจจัยใหม่ คาดกรอบพรุ่งนี้ 35.50-35.75

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 26, 2015 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.62/66 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.61 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทค่อนข้างแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาท โดยตลอดทั้งวันเงินบาทแกว่งอยู่ในกรอบ 10 สตางค์ ขณะที่การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็เป็นเพียงการรายงานตัวเลขประจำสัปดาห์

"วันนี้บาทแกว่งในกรอบแคบๆ ไม่เกิน 10 สตางค์ ไม่ค่อยมีตัวเลขสำคัญๆ ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ พรุ่งนี้บาทคงยังไม่หลุด 35.50" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.50-35.75 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ช่วงเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.30 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 119.04 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1450 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1529 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,320.08 ลดลง 3.80 จุด (-0.29%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 45,889 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 4,433.97 ลบ.(SET+MAI)
  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) คาดว่า ค่าเงินบาทในปีนี้อาจจะเห็นอยู่ที่ 37 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่ากว่าเป้าที่ตั้งไว้ 35 บาท/ดอลลาร์เป็นผลมาจากการที่แต่ละประเทศได้มีการปรับค่าเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศของตัวเอง และเป็นผลมาจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับมาแข็งแกร่งทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อีกทั้งการลดค่าเงินหยวนของจีนส่งผลกระทบต่อค่าเงินทั่วโลกให้มีความผันผวน
  • นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า มาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศที่จะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้านั้น ในส่วนของการเติมเงินให้กับเศรษฐกิจในระดับรากหญ้าจะดำเนินการผ่านกลไกกองทุนหมู่บ้าน ขณะเดียวกันจะเสนอแนวทางเพิ่มแรงจูงใจเพื่อดึงดูดให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มมากขึ้น พร้อมเชื่อว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเริ่มฟื้นตัวขึ้นได้ใน 3 เดือน
  • รมว.คลัง ยังกล่าวถึงกรณีที่ธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เมื่อวานนี้ว่า คงไม่ทำให้เกิดปัญหาสงครามค่าเงินในภูมิภาค ซึ่งการที่จีนลดอัตราดอกเบี้ยลงก็เป็นการทำเพื่อดูแลเศรษฐกิจในประเทศให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะให้มีการขยายตัวได้ 7% ทั้งนี้มองว่าจีนยังมีเครื่องมือที่จะนำมาใช้อีกมากในการประคองเศรษฐกิจไม่ให้ชะลอตัว
  • นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) คาดว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรกที่เติบโตได้ราว 2.9% โดยมีภาคการท่องเที่ยวและการลงทุนภาครัฐช่วยผลักดันการเติบโต โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4/58 ซึ่งจะมีการใช้งบลงทุนสร้างถนน 4 หมื่นล้านบาท และเริ่มการใช้จ่ายงบประมาณปี 59 เชื่อว่าจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 1%
  • นางกอบกาญจน์ วัฒนาวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา คาดว่า เหตุระเบิดแยกราชประสงค์จะกระทบบรรยากาศการท่องเที่ยวไม่เกิน 1 เดือน โดยยังมั่นใจเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้ที่ 28.8 ล้านคน และทำรายได้ 2.2 ล้านล้านบาท เนื่องจากครึ่งปีแรกทำได้ดีมาก โดยมั่นใจไตรมาสสุดท้ายจะปรับเพิ่มขึ้นแน่นอน เพราะมีแผนการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • นายอุตตม สาวนายน รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กล่าวภายหลังการมอบนโยบายให้แก่หน่วยงานในสังกัด โดยยืนยันว่ากระทรวงไอซีทียังคงเดินหน้าดำเนินการเรื่องเศรษฐกิจดิจิตอล การเปิดประมูล 4G ตามแผน
  • นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ กกพ.วันนี้มีมติเห็นชอบให้ปรับลดค่าเอฟทีในงวดเดือนก.ย.-ธ.ค.58 ลง 3.23 สตางค์ต่อหน่วย เป็น 46.38 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะมีผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทอยู่ที่ 3.73 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยเป็นการปรับลดลงน้อยกว่าที่เคยประมาณการไว้ เนื่องจากเงินบาทที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว
  • นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย (KTB)ปรับเป้าสินเชื่อรายย่อยลดลงเหลือโต 6-9% จากเดิมที่โต 11-12% หลังจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวลง ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าลดลงตามไปด้วย ประกอบกับ ธนาคารมีการเพิ่มเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศอัดฉีดเงิน 1.40 แสนล้านหยวน เข้าสู่ระบบธนาคารของประเทศ ผ่านปฏิบัติการอัดฉีดสภาพคล่องระยะสั้น (short-term liquidity operations - SLO) โดยอัตราดอกเบี้ยระยะ 6 วัน อยู่ที่ 2.3% โดยความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดนี้ มีขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางจีนเพิ่งประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย และอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เมื่อวานนี้ ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศยังคงเผชิญกับแรงกดดันช่วงขาลง
  • นายอากัส มาร์โทวาร์โดโจ ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ความผันผวนในตลาดการเงินที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกนั้นน่าจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และคาดว่าจะกลับมาเป็นปกติในเดือนมี.ค.ปีหน้า

แท็ก เงินบาท  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ