นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 36.36/38 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 36.43/45 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทวันนี้ยังมีทิศทางอ่อนค่า เนื่องจากจะมีแรงซื้อดอลลาร์มากเป็นปกติในช่วงสิ้นเดือน โดยนักลงทุนยังติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในช่วงปลายสัปดาห์นี้ คือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนก.ย. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI)ภาคบริการในเดือนก.ย.ของจีน
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทยังอ่อนค่าต่อในกรอบ 36.35-36.50 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 36.3700 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(29 ก.ย.) อยู่ที่ 1.72820% ส่วน THAI BAHT FIX 6M(29 ก.ย.) อยู่ที่ 1.77851%
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.87/89 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 119.69 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรเช้านี้ อยู่ที่ระดับ 1.1248/1250 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1225 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของธปท.อยู่ที่ระดับ 36.469 บาท/ดอลลาร์
- วันนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ ภาวะเศรษฐกิจไทยประจำเดือน ส.ค.58 และ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรมประจำเดือน ส.ค.58
- สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ (S&P) ยังคงอันดับเครดิตของประเทศไทยไว้ที่ ระดับ BBB+ โดยมีมุมมอง Stable และเห็นว่าสถานการณ์การเมืองในไทยดีขึ้นกว่าในอดีต เนื่องจากปัจจุบันไม่มีชุมนุมประท้วงโดยทาง S&P ยังคงติดตามการดำเนินนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเป็นปัจจัยที่ให้น้ำหนักมากที่สุดว่าจะมีความต่อเนื่องหรือไม่ รวมทั้งติดตามว่าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ทั้งโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนด้านการศึกษาจะเกิดผลสำเร็จหรือไม่
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เร่งเคาะมาตรการด้านอสังหาฯ ภายใน 1 ตุลาคมนี้ เล็งผ่อนปรนการปล่อยสินเชื่อ หลังพบกำลังซื้อยังมีแต่ถูกแบงก์ปฏิเสธ ส่วนมาตรการภาษีต้องมองให้รอบด้าน คาดชงเข้าครม.วันที่ 5 ตุลาคม ด้านแบงก์ออมสินวางมาตรการรับมือภัยแล้งปีหน้า มีทั้งพักชำระหนี้ ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
- กสิกรฯเผยไตรมาส 3 ยังต้องกันสำรองเพิ่ม เอ็นพีแอลยังเพิ่ม แต่ยังอยู่ในระดับบริหารจัดการได้ หวังเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าสู่ระบบช่วยพยุงได้ เตรียมทำ แผนปีหน้า คาดจีดีพีโต 3.2% ขณะที่ค่าบาทอ่อนแตะ 36.50
- พาณิชย์เตรียมเรียก 12 กลุ่มสินค้าวางยุทธศาสตร์ส่งออกระยะเร่งด่วน เพื่อเสนอบอร์ด พกค.อนุมัติเร็วๆ นี้ "สุวิทย์" ขีดเส้น 1 เดือน ปรับทัพทูตพาณิชย์ จัดตลาดใหม่ให้เสร็จ ด้านเอ็กซิมแบงก์พร้อมสนับสนุนสินเชื่ออุ้มผู้ประกอบการไทยแข่งตลาดโลก
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันภาคส่งออกติดลบไม่ทำให้ประเทศไทยเกิดวิกฤติ ยกประเทศอังกฤษเปรียบเทียบ ที่ส่งออกติดลบต่อเนื่อง 10 ปียังอยู่ดี เพราะสามารถสร้างเศรษฐกิจในประเทศให้เข้มแข็งและมีรายได้จากการท่องเที่ยว ดังนั้นประเทศไทยจะเดินหน้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งจากต่างชาติและคนไทย มั่นใจอีก 3 ปีต่างชาติเที่ยวไทยแตะ 50 ล้านคนจะมีรายได้มหาศาล
- กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ มั่นใจสิ้นปีนี้เปิดสำรวจปิโตรเลียมรอบ 21 ได้ เผยรอเพียงรัฐเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.ปิโตรเลียม 2 ฉบับเข้า สนช.เห็นชอบชี้เปิดได้ช่วยกระตุ้นลงทุนและสร้างงาน หลังธุรกิจเกี่ยวข้องปลดคนกว่า 1,000 คน จ่อย้ายฐานพร้อมเร่งสรุปแนวทางบริหารจัดการแหล่งบงกช-เอราวัณที่ใกล้หมดอายุ ด้าน "คุรุจิต" แจงความคืบหน้าพื้นที่คาบเกี่ยวไทย-กัมพูชา รัฐบาลไม่ยกเลิก MOU ปี 44
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาส่งสัญญาณที่แตกต่างกัน
โดยนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนต.ค. หรือธ.ค.ปีนี้ ในขณะที่นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด สาขาชิคาโก กล่าวว่า เฟดควรตรึงอัตราดอกเบี้ยใกล้ระดับ 0% เป็นเวลานานกว่าที่วางแผนไว้ พร้อมกับกล่าวว่าหากเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป ก็จะสร้างความเสียหายหลายด้าน ซึ่งรวมถึงชื่อเสียงของเฟด
- นักวิเคราะห์จับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์ เพื่อจับสัญญาณเรื่องแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
- Conference Board เปิดเผยผลสำรวจ พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 103.0 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. หลังแตะระดับ 101.3 ในเดือนส.ค. และดัชนีประเมินภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 8 ปีในเดือนก.ย.
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนจากรายงานของ Conference Board ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.ของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาด โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 45.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 48.23 ดอลลาร์/บาร์เรล