(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 35.15/19 แข็งค่าจากแรงเทขายดอลล์ หลังข้อมูลศก.สหรัฐอ่อนแอ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 15, 2015 11:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.15/19 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.49 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเนื่องจากมีแรงขายดอลลาร์ หลังจากที่เมื่อคืนนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาไม่ดี คือดัชนีราคาผู้ผลิต ร่วงลง 0.5% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ(Beige Book) จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้บ่งชี้ถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐ จึงทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ

"วันนี้บาทแข็งค่าไปค่อนข้างมาก เพราะมีแรงเทขายดอลลาร์ หลังจากที่การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาไม่ค่อยดี ดอลลาร์จึงอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ เงินบาทก็แข็งค่าตามภูมิภาคด้วย" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.00-35.20 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 35.2000 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(14 ต.ค.) อยู่ที่ 1.67041% และ THAI BAHT FIX 6M(14 ต.ค.) อยู่ที่ 1.71004%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เปิดตลาดเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.06/11 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 119.56 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1468 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1403 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.592 บาท/ดอลลาร์
  • ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอและรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้บ่งชี้ถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐ และระบุว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่า ได้ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวและภาคการผลิต
  • ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ร่วงลง 0.5% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ ท่ามกลางการร่วงลงของราคาน้ำมัน และดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
  • นักวิเคราะห์มองว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของสหรัฐในเดือนก.ย. ได้สกัดความเป็นไปได้ที่ว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ขณะที่ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายได้ออกมาเตือนถึงความเสี่ยงในการปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไป
  • ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก และแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ซบเซา ขณะเดียวกันเงินเยนที่แข็งค่าก็ฉุดตลาดหุ้นญี่ปุ่นอ่อนตัวลง
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ซบเซา เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ในวันนี้ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 2 เซนต์ ปิดที่ 46.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 9 เซนต์ ปิดที่ 49.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันโลกจะยังคงประสบกับภาวะน้ำมันล้นตลาดจนถึงปีหน้า ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) รายงานว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกในช่วงเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 109,000 บาร์เรล สู่ระดับเฉลี่ย 31.57 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2555
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐและสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 14.4 ดอลลาร์ หรือ 1.24% ปิดที่ระดับ 1,179.80 ดอลลาร์/ออนซ์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ