พาณิชย์ จัดทัพทูตพาณิชย์-เจาะตลาดเมืองสำคัญเชิงลึกเพิ่มยอดการส่งออก

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 27, 2015 14:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ การจัดทัพทูตพาณิชย์ตามยุทธศาสตร์การเจาะลึกอาเซียน (Deepening ASEAN) โดยการนำทูตพาณิชย์ที่เก่งที่สุดมาประจำอยู่ในอาเซียน 9 ประเทศนั้น คาดว่า จะแล้วเสร็จในช่วงต้นเดือนพ.ย.58 ซึ่งจะทำให้แผนการบุกเจาะตลาดอาเซียนทำได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงสามารถเพิ่มยอดการส่งออกสินค้าไทยไปยังตลาดอาเซียนในฐานะตลาดส่งออกอันดับ 1 และยังเป็นการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) อีกด้วย โดยหลังจากปรับทัพทูตพาณิชย์แล้ว จะบุกเจาะตลาดเชิงลึก โดยมุ่งเน้นเจาะตลาดเมืองสำคัญ 50 เมืองของโลก และ 50 เมืองของอาเซียน

“ต่อไปทูตพาณิชย์จะทำหน้าที่เป็น Backstopping หรือเป็นหน่วยงานสนับสนุนที่จะไปหาตลาด ตรวจสอบความต้องการของตลาด และส่งคำสั่งซื้อสินค้าจากประเทศที่ตนเองประจำอยู่มายังผู้ประกอบการไทย ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสและเพิ่มยอดการส่งออกให้กับสินค้าไทยได้"

สำหรับการเร่งผลักดันการส่งออกในระยะสั้น กระทรวงฯ จะมุ่งการเปิดตลาดใหม่ และเน้นการผลักดันการส่งออกไปยังตลาดที่ยังเติบโตได้ โดยจะจัดคณะนักธุรกิจไทยเดินทางไปยังตลาดการค้าการลงทุนในหลายประเทศที่เศรษฐกิจยังเติบโตในอัตราสูง เช่น CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) โดยจะเริ่มต้นจากกัมพูชาต่อเนื่องไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ และตลาดใหม่ที่ยังมีความสด เช่น อิหร่าน เป็นต้น

ส่วนการแก้ไขปัญหาการส่งออกและผลักดันการส่งออกอย่างเร่งด่วนนั้น กระทรวงฯ มีแผนที่จะนำ CEO กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร อัญมณีและเครื่องประดับ กลุ่ม Wellness (สุขภาพ ความงาม อายุรเวช) เป็นต้น เข้าพบปะหารือกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี รวมถึงทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อร่วมมือกันฟื้นฟูเศรษฐกิจ และผลักดันการส่งออก หลังจากที่ได้เชิญ CEO กลุ่มยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เข้าพบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีมาแล้ว

นอกจากนี้ จะจัดการประชุมคณะกรรมการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในเดือนพ.ย.นี้ เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคการส่งออกที่มีหลายกระทรวงเข้าเกี่ยวข้อง และปรับโครงสร้างการส่งออกทั้งระบบอย่างบูรณาการ

"แม้มูลค่าการส่งออกของไทยไม่ดีนัก แต่ถือว่าเอาตัวรอดได้ และดีกว่าอีกหลายประเทศ ขณะเดียวกัน ส่วนแบ่งตลาดของไทยในตลาดคู่ค้าหลายประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งในญี่ปุ่น สหรัฐฯ สหภาพยุโรป จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลีใต้ ไต้หวัน อินเดีย ออสเตรเลีย ชิลี แอฟริกาใต้ และรัสเซีย แสดงให้เห็นว่าความต้องการสินค้าไทยยังคงมีเพิ่มขึ้น"รมช.พาณิชย์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ