ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คาดนักท่องเที่ยวปีนี้แตะ 30.19 ล้านคน-ยุโรปหนุนช่วงไฮซีซั่น

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 3, 2015 17:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 58 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยจำนวนประมาณ 7.68-8.00 ล้านคน เติบโต 2.6-6.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 57 (ที่ขยายตัว 7.3%) ส่งผลให้ทั้งปี 58 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมทั้งสิ้น 30.19 ล้านคนขยายตัว 21.7% จากปีที่แล้ว
สถานการณ์ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 58 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทยจำนวน 22,135,871 คน เพิ่มขึ้น 27.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 57 โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนยังคงเป็นตลาดหลักอันดับ 1 (มีจำนวน 6,115,705 คน) รองลงมา ได้แก่ มาเลเซีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ตามลำดับ

พื้นที่ที่คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะเลือกเดินทางไปในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ไม่รวมกรุงเทพฯ น่าจะยังคงเป็นภาคใต้ โดยมีตลาดนักท่องเที่ยวชาวยุโรปเป็นแรงหนุนสำคัญไม่ว่าจะเป็น เยอรมนี ฝรั่งเศส เป็นต้น อีกทั้ง ตอนนี้ธุรกิจสายการบินจากต่างประเทศได้มีการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินประจำและเที่ยวบินเช่าเหมาลำมายังหลายพื้นที่ภาคใต้ของไทยแล้ว เช่น ภูเก็ต กระบี่ และสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย)

ขณะเดียวกันภาคตะวันออกของไทย อย่าง ชลบุรี (พัทยา) น่าจะได้รับแรงหนุนจากการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนและน่าจะคึกคักต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งด้วยการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ของท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาที่ช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการเดินทางได้มาก นอกจากนี้ พื้นที่ภาคเหนือของไทย เช่น เชียงใหม่ ก็ยังมีแนวโน้มที่นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดคาราวานนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน (ตอนใต้) มีแนวโน้มเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในภาคเหนือของไทยเพิ่มขึ้น

สำหรับในไตรมาส 4/58 นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรปที่เป็นตลาดสำคัญในช่วงไฮซีซั่นของไทย เนื่องจากมีการใช้จ่ายต่อทริปสูงกว่าตลาดอื่น ด้วยจำนวนวันพำนักกว่า 10 วันต่อทริป (สูงกว่าค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 8 วันต่อทริป) โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ตลาดนักท่องเที่ยวชาวยุโรปยังคงติดลบอยู่ที่ระดับ 9.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งแรงฉุดมาจากตลาดนักท่องเที่ยวรัสเซียที่หดตัวไปแล้วกว่า 40%

อย่างไรก็ดี บางตลาดอย่าง เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ และยุโรปใต้ยังคงเติบโตเป็นบวก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวอิตาลีและสเปนที่ขยายตัวเป็นเลขสองหลัก (13.9% และ 33.7% ตามลำดับ) นอกจากนี้ ตลาดอื่นๆ เช่น สหรัฐอเมริกา อิสราเอล และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยังคงเติบโตเป็นเลขสองหลัก

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การจัดงานเมกะอีเว้นท์ในช่วงปลายปี เช่น กีฬา เทศกาลประจำปี จะดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดยุโรปและอเมริการายใหม่ๆ ให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภูเก็ตมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเติบโตของตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีนระดับกลาง ซึ่งมีการใช้จ่ายไม่สูงนักเมื่อเปรียบเทียบกับนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดยุโรปและอเมริกา ที่เริ่มท่องเที่ยวยังจังหวัดภูเก็ตมากขึ้น อาจส่งผลให้นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดยุโรปและอเมริกาที่ต้องการท่องเที่ยวแบบสงบและเป็นส่วนตัวที่เพิ่งวางแผนในช่วงปลายปีนี้ เปลี่ยนจุดหมายปลายทางไปยังจังหวัดใกล้เคียง เช่น กระบี่ พังงา เป็นต้น แทน

ดังนั้น ความท้าทายของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวในภูเก็ต จึงอยู่ที่การรักษาภาพลักษณ์ของการเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับบนไว้ ด้วยการคงมาตรฐานการให้บริการต่างๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวระดับบน ทั้งนี้ การที่ภาครัฐผลักดันให้ไทยเป็น Marina Hub น่าจะเอื้อให้ภูเก็ตยังสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวระดับบนไว้ได้ในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มนักท่องเที่ยวเรือยอร์ช

ขณะที่ตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เติบโตเฉลี่ยเป็นเท่าตัวในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 58 นั้น ในช่วงไตรมาส 4 อาจเติบโตไม่โดดเด่นเท่ากับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทางการไทยมีมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าเพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวชาวจีน และเมื่อประกอบกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนในช่วงไฮซีซั่นของไทยที่ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องปรับตัวสูงขึ้นกว่าช่วงอื่น (เช่น ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบิน ค่าห้องพัก เป็นต้น) ทำให้บางตลาดอาจจะลดลงด้วยปัจจัยเรื่องค่าใช้จ่ายมีผลต่อแผนการเดินทางท่องเที่ยว แต่แน่นอนว่าคงไม่กระทบตลาดชาวจีนระดับบน ขณะที่ตลาดนักท่องเที่ยวจีนโดยรวมจะกลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีหน้า

โดยนักท่องเที่ยวชาวจีน น่าจะท่องเที่ยวเชียงใหม่คึกคัก ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซั่นของคนไทยที่นิยมท่องเที่ยวในเชียงใหม่ ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวในเชียงใหม่ต้องวางแผนรับมือการให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติและคนไทยจำนวนมากอีกด้วย

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวชาวจีนวางแผนท่องเที่ยวกระชั้นมากขึ้น และนิยมเดินทางด้วยตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านเส้นทาง R3A จากชายแดนจีนผ่านลาว เข้าสู่ไทย ดังนั้น การท่องเที่ยวตามรอยการรีวิวผ่านสื่อออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ กระทู้ บล็อก เป็นต้น จึงน่าจะได้รับความนิยม และมีแนวโน้มใช้บริการนำเที่ยวลดลง ภาวะดังกล่าวผู้ให้บริการนำเที่ยวในเชียงใหม่อาจให้ความสำคัญกับการเจาะนักท่องเที่ยวต่างชาติอื่นๆ เช่น ผู้เดินทางเพื่อติดต่อธุรกิจ นักท่องเที่ยวกลุ่มองค์กรที่เดินทางเป็นหมู่คณะ เป็นต้น

ผู้ประกอบการในเชียงใหม่ควรวางแผนรับมือการให้บริการนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดเอเชียระยะใกล้ เช่น จีน มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ เป็นต้น ที่มีแนวโน้มวางแผนท่องเที่ยวกระชั้นมากขึ้น รวมถึงจองการเดินทางหรือที่พักล่วงหน้าก่อนออกเดินทางไม่นาน ดังนั้น ผู้ให้บริการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอาจจัดแพ็คเกจร่วมกับพันธมิตรมอบโปรโมชั่นส่วนลดกระตุ้นการตัดสินใจใช้บริการในนาทีสุดท้ายจากนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มตลาดเอเชียระยะใกล้ดังกล่าว

เมื่อพิจารณาในมุมของพฤติกรรมการใช้จ่ายของชาวต่างชาติที่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี พบว่า การจับจ่ายเพื่อซื้อสินค้าและของที่ระลึก มีสัดส่วนเป็นอันดับ 2 รองจากค่าใช้จ่ายด้านที่พัก (ซึ่งแตกต่างจากช่วงเวลาอื่นของปีที่ส่วนใหญ่จะใช้จ่ายไปกับค่าอาหารและเครื่องดื่มเป็นอันดับ 2) อาจจะด้วยนักท่องเที่ยวมีการวางแผนหรือชำระเงินสำหรับค่าใช้จ่ายหลักไปแล้ว (ค่าที่พัก) จึงทำให้สามารถใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่องได้ ซึ่งน่าจะช่วยส่งสัญญาณให้ผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกที่เกี่ยวเนื่องหันมาจัดแคมเปญส่งเสริมการขายเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เช่น ตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีกำลังซื้อสูงที่เดินทางมาไทยนิยมซื้อของฝากของที่ระลึก สินค้าแฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องประดับ เป็นต้น

"ไตรมาสสุดท้ายของปีเป็นช่วงเวลาทองสำหรับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว โดยผู้ประกอบการอาจปรับกลยุทธ์รับการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ดังนี้ ผู้ประกอบการในภูเก็ตเตรียมพร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มตลาดยุโรปและอเมริกามีพฤติกรรมการท่องเที่ยวหลายวัน วางแผนล่วงหน้ายาวนาน และไม่เปลี่ยนแผนการท่องเที่ยวหากสถานการณ์ในไทยยังคงสงบเรียบร้อย ซึ่งส่งอานิสงส์ต่อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวในภูเก็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริการห้องพัก ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวต่างชาติจองล่วงหน้า โดยภาพรวมของอัตราการเข้าพักในภูเก็ตเดือนกันยายนปี 58 อยู่ที่ร้อยละ 61.42 เติบโตจากเดือนกันยายนปี 57 ที่อยู่ที่ร้อยละ 59.00 นับเป็นสัญญาณที่ดีต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ตในช่วงปลายปีนี้" เอกสารศูนย์วิจัย ระบุ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ