โดย พพ. ได้วางแนวทางการขับเคลื่อนเชื้อเพลิงชีวภาพ ที่สำคัญ ๆ ได้แก่ ระยะสั้น ในปี 2559 ที่จะถึงนี้ พพ. จะเดินหน้าส่งเสริมการผลิตและใช้ไบโอดีเซล B7 อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการจัดเตรียมมาตรฐานน้ำมันไบโอดีเซล B10 และการดำเนินโครงการนำร่องการใช้ไบโอดีเซล B20 ในรถบรรทุกขนาดใหญ่ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้ปาล์มน้ำมันในประเทศ สร้างเสถียรภาพด้านราคาและช่วยลดผลกระทบต่อเกษตรกร
ส่วนแผนงานระยะกลางปี 2560-2564 ของการผลิตและใช้เชื้อเพลิงชีวภาพนี้ ในด้านความมั่นคงทางวัตถุดิบในการผลิตเอทานอลและไบโอดีเซลจะอ้างอิงตามตามยุทธศาสตร์พืช 4 สินค้า ซึ่งได้รวมพืชวัตถุดิบทั้งอ้อยโรงงาน มันสำปะหลัง และน้ำมันปาล์ม
นอกจากนี้ พพ. ยังได้เตรียมการในการแปรรูปขยะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง และการปลูกพืชพลังงานเพื่อเป็นวัตถุดิบสำหรับก๊าซชีวภาพอัดหรือ CBG ซึ่งสามารถผลิตได้จากน้ำเสียโรงงาน เพื่อจะเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกหนึ่งในภาคขนส่ง ทดแทนการใช้ก๊าซธรรมชาติในภาคขนส่ง (NGV) และจะช่วยให้พื้นที่ซึ่งอยู่ห่างจากปลายท่อส่งก๊าซ ได้มีทางเลือกในการเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น รวมทั้งเป็นการสร้างมูลค่าจากของเสียให้สามารถผลิตพลังงาน เพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการ รวมไปถึงการส่งเสริมน้ำมันจากกระบวนการไพโรไลซิสและก๊าซชีวภาพอัด ซึ่ง พพ. จะเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้เชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่อง
นายธรรมยศ กล่าวว่า ในส่วนของการส่งเสริมเชื้อเพลิงชีวภาพ ตามแผน AEDP 2015 ดังกล่าว จากนี้ พพ. จะได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อเร่งเดินหน้าวิจัยเชื้อเพลิงชีวภาพ ทั้งในส่วนของเอทานอล และไบโอดีเซล ให้สามารถเพิ่มผลผลิต (yield) มากยิ่งขึ้น ลดต้นทุนการผลิตต่อหน่วย รวมไปถึงการวิจัยพัฒนาปรับปรุงคุณภาพน้ำมันจากขยะพลาสติก เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตพลังงานทดแทน และสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในประเทศในอนาคตต่อไป
สำหรับในส่วนของความคืบหน้าการดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์ฟาร์ม)ในส่วนค้างท่อนั้น ล่าสุดพพ.เตรียมจะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ช่วงปลายเดือนธ.ค.นี้ พิจารณาด้านหลักเกณฑ์ว่าจะขยายระยะเวลาการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์(COD) อย่างไร โดยจะต้องพิจารณาเป็นรายกรณีไป เนื่องจากโครงการโซลาร์ฟาร์มค้างท่อที่มีจำนวน 1,033 เมกะวัตต์นั้น แม้จะได้เคลียร์ไปแล้วส่วนหนึ่ง และยังคงเหลืออีกจำนวน 300 เมกะวัตต์ ที่ยังติดปัญหาผังเมือง ซึ่งทำให้การจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบอาจจะไม่ทันภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่มติกพช.ก่อนหน้านี้ ให้ยึดใบอนุญาตซื้อขายไฟฟ้าสำหรับผู้ที่ไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ตามกำหนด