รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ในด้านการค้าสินค้า ไทยและชิลีได้ลดภาษีนำเข้าสำหรับสินค้ากว่าร้อยละ 90 ลงเหลือ 0 แล้วเมื่อตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา และจะทยอยลดภาษีสินค้าที่เหลืออีกกว่าร้อยละ 10 ให้เหลือ 0 ภายในปี 8 ปี(ปี 2566) โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทยที่จะได้ประโยชน์จากความตกลงฉบับนี้ เช่น ยานยนต์ ปลาแปรรูป (ปลากระป๋อง) โพลิเมอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง (ปูนซีเมนต์) เม็ดพลาสติก ยางและผลิตภัณฑ์จากยาง และอัญมณี เป็นต้น สำหรับสินค้าข้าวนั้น ชิลีจะทยอยยกเลิกภาษีนำเข้าให้แก่ไทยภายใน 2563 ปี ทั้งนี้ สินค้านำเข้าสำคัญจากชิลีที่ไทยลดภาษีให้ เช่น ทองแดง สินแร่เหล็ก และผักและผลไม้ เป็นต้น ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญของไทยในการผลิตสินค้าสำเร็จรูปเพื่อการส่งออกไปยังประเทศที่สามต่อไป
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ไทยและชิลีเห็นชอบร่วมกันที่จะจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนต่างๆ เช่น การจัดสัมมนาสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี ไทย-ชิลี และการแลกเปลี่ยนการเยือนของคณะธุรกิจระหว่างไทยกับชิลี เป็นต้น เพื่อกระตุ้นการค้าระหว่างไทยกับชิลี และส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ โดยไทยและชิลีจะได้ผลัดกันเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมดังกล่าวทั้งในประเทศไทยและประเทศชิลีในช่วงปี 2559 ทั้งนี้ ยังเสนอให้ชิลีใช้ประเทศไทยเป็นฐานสำหรับการขยายการค้าและการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคและมีศักยภาพในการเป็น Gateway ของชิลีในภูมิภาคนี้
ทั้งนี้ชิลีเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยในภูมิภาคอเมริกาใต้ โดยในปี 2557 ชิลีเป็นคู่ค้าอันดับที่ 3 รองจากบราซิลและอาร์เจนตินา การค้ารวมระหว่างไทยกับชิลีมีมูลค่า 961 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับปี 2558 (มกราคม-กันยายน) มูลค่าการค้ารวมระหว่างไทยกับชิลีมีมูลค่า 694 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลงร้อยละ 8.62) โดยไทยส่งออกมูลค่า 486 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลงร้อยละ 5.25) และนำเข้ามูลค่า 208 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลงร้อยละ 15.61) ส่งผลให้ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลกับชิลีเป็นมูลค่า 277 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปชิลี ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องซักผ้า เครื่องซักแห้ง และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และเครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ เป็นต้น สำหรับสินค้านำเข้าสำคัญของไทยจากชิลี ได้แก่ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูป และกึ่งสำเร็จรูป สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ ปุ๋ย และยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ และผัก ผลไม้ และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้ เป็นต้น