เงินบาทปิด 35.86/88 ยังมีโอกาสอ่อนค่า หากตัวเลขศก.สหรัฐคืนนี้ออกมาดี

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 19, 2015 17:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.86/88 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.93/95 บาท/ดอลลาร์

ช่วงเย็นนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นจากช่วงเช้า โดยภาพรวมระหว่างวันเงินบาทแกว่งอยู่ในกรอบแคบ แต่แนวโน้มเงินบาทยังมีโอกาสจะกลับไปอ่อนค่าได้อีก หากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาในคืนนี้ออกมาดีขึ้น โดยเฉพาะตัวเลขการขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์

"ปิดตลาดเงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยวันนี้บาทยังแกว่งแคบๆ แต่แนวโน้มบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าได้ ถ้าคืนนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี ดอลลาร์ก็จะแข็งค่า" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.80-36.00บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 123.21/24 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 123.43/48 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรช่วงเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 1.0683/0685 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0699/0703 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,384.97 เพิ่มขึ้น 8.15 จุด (+0.59%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 34,165 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 387.40 ลบ.(SET+MAI)
  • นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง คาดว่า กระทรวงการคลังจะเสนอเรื่องการจัดตั้ง Thailand Future Fund มูลค่า 1 แสนล้านบาท เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้ภายใน 2 สัปดาห์ ทั้งนี้เพื่อเป็นช่องทางระดมทุนมาใช้ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยจะเน้นการเสนอขายหน่วยลงทุนให้นักลงทุนสถาบันในและต่างประเทศเป็นหลัก ส่วนผลตอบแทนการลงทุนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา

รมว.คลัง ได้แสดงความมั่นใจว่าตลาดหุ้นไทยในปีหน้าจะดีขึ้นกว่าปีนี้แน่นอน เป็นผลมาจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวขึ้น หลังจากรัฐบาลออกนโยบายต่างๆ มากระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการกระจายรายได้สู่ระดับฐานราก ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจปีหน้าได้เห็นการฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจนจากปีนี้ที่เศรษฐกิจยังชะลอตัว

  • นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินภาวะเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ว่า มีแนวโน้มขยายตัวเกิน 3% จากเดิมที่ประมาณการณ์ไว้ 2.8-3.1% หากรัฐบาลอัดฉีดงบประมาณลงสู่ระบบอีกรอบ โดยเฉพาะกระทรวงคมนาคมที่จะใช้งบประมาณในไตรมาส 4 อีก 25,000 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างถนนและสาธารณูปโภค ประกอบกับที่ผ่านมาเม็ดเงินจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มลงสู่ระบบแล้ว ทั้งกองทุนหมู่บ้านและการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน
  • ธนาคารกลางจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า ธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อโครงการเงินกู้ระยะสั้น (SLF) ซึ่งเป็นเครื่องมือในการสนับสนุนสภาพคล่อง สำหรับสถาบันการเงินท้องถิ่น
  • กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน เปิดเผยว่า บริษัทในภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และไอทีของจีนมีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1.11646 ล้านหยวน ซึ่งแต่ละโครงการมีมูลค่ามากกว่า 5 ล้านหยวนในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2558 ซึ่งปรับตัวขึ้น 14.5% เมื่อเทียบรายปี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ