(เพิ่มเติม) รมว.พลังงาน เดินหน้า 5 แผนบูรณาการระยะยาว-เร่งสางภารกิจค้างกม.ปิโตรเลียมฯ-โรงไฟฟ้าถ่านหิน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 24, 2015 14:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหาด้านพลังงานในช่วงก่อนที่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ประกอบด้วย 4 ปัญหาหลัก ได้แก่ โครงสร้างราคาพลังงานที่ไม่เหมาะสมและเป็นธรรม การส่งเสริมพลังงานทดแทนเกิดการหยุดชะงัก สภาพผูกขาดของกิจการพลังงาน และประเทศขาดแผนพลังงานในภาพรวม โดยในรอบ 1 ปี(12 ก.ย.57-15 ธ.ค.58) มีภารกิจหลัก 2 ด้าน คือ ด้านการแก้ปัญหาในระยะเร่งด่วน และการดำเนินงานตามนโยบาย ซึ่งมีผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมในด้านต่างๆ อาทิ ด้านการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ได้มีการแก้ไขปัญหาหนี้สินสะสมของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งมีประมาณกว่า 7 พันล้านบาท โดยได้ทยอยลดภาระของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยการปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ตามหลักการที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเห็นชอบ ทำให้สามารถสะสางหนี้กองทุนจนหมด และมีเงินกองทุนสะสมมากถึง 4 หมื่นกว่าล้านบาท นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการปลดล็อกอุปสรรคการส่งเสริมพลังงานทดแทน โดยมีการผลักดันการแก้กฎระเบียบและกระบวนการออกใบอนุญาตให้มีความรวดเร็วขึ้น อาทิ การออกใบอนุญาตตามกฎหมายโรงงาน (รง.4) การอนุมัติให้มีการอนุโลมย้ายสถานที่ติดตั้งโซลาร์ฟาร์มกรณีที่มีปัญหาเรื่องสายส่ง ทำให้สามารถอนุมัติโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนจำนวน 269 โครงการ รวม 1,597.02 เมกะวัตต์

ด้านการดำเนินงานตามนโยบาย กระทรวงพลังงานได้มุ่งเน้นการดำเนินงานใน 3 ด้าน คือ ด้านพลังงานมั่นคง เศรษฐกิจมั่งคั่ง และสังคมไทยยังยืน โดยในนโยบายด้านพลังงานมั่นคง ในรอบปีที่ผ่านมา กระทรวงพลังงาน ได้ดำเนินการในเรื่องสำคัญๆ ประกอบด้วย การจัดทำแผนบูรณาการพลังงานระยะยาว 20 ปี การส่งเสริมการจัดหาและขยายโครงสร้างพื้นฐานปิโตรเลียม การบริหารจัดการและพัฒนาระบบไฟฟ้า และการผลักดันความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างประเทศ ส่วนนโยบายด้านเศรษฐกิจมั่งคั่ง ได้มีการปรับราคาพลังงานให้เป็นธรรมต่อทุกภาคส่วน และการส่งเสริมการแข่งขันในกิจการพลังงาน สำหรับนโยบายด้านสังคมไทยยั่งยืน กระทรวงพลังงานได้มุ่งเน้นส่งเสริมในเรื่องต่างๆ ได้แก่ การเร่งรัดส่งเสริมพลังงานทดแทน การบริหารจัดการด้านอนุรักษ์พลังงานอย่างเข้มข้น การเสริมสร้างศักยภาพชุมชนด้านพลังงาน และการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้เกษตรกร

นอกเหนือจากการบูรณาการภาคพลังงานภายในประเทศแล้ว กระทรวงฯ ยังได้มุ่งเน้นความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างประเทศ โดยมีกรอบความร่วมมือกับประเทศต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงและพัฒนาด้านพลังงานให้มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืนร่วมกัน ได้แก่ การจัดทำ MOU กับ เมียนมา การจัดทำ MOU กับ รัสเซีย และความร่วมมือด้านพลังงานในอาเซียน ทั้ง 7 สาขา ประกอบด้วย ปิโตรเลียม ไฟฟ้า พลังงานทดแทน อนุรักษ์พลังงานถ่านหินสะอาด นิวเคลียร์ นโยบายและแผนพลังงาน โดยล่าสุดร่วมจัดทำแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงานของอาเซียน (ASEAN Plan of Action on Energy Cooperation) ฉบับปี พ.ศ.2559-2568 เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม ตลอดจนได้มีการจัดทำ MOU ว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงานกับ ทบวงพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency : IEA) ซึ่งมีขอบเขตครอบคลุมถึงประเด็นความมั่นคงทางพลังงาน กรอบแนวทางการสำรองน้ำมัน นโยบายและมาตรการต่อสถานการณ์ฉุกเฉินทางพลังงาน ตลอดจนข้อมูลสถิติพลังงาน ล่าสุด การกระทรวงพลังงานได้เข้าร่วมการประชุม IEA Ministerial Meeting 2015 ณ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในฐานะประเทศพันธมิตรที่ไม่ได้เป็นสมาชิก และทาง IEA ได้เห็นชอบยกระดับความร่วมมือกับประเทศไทยเป็นรูปแบบ Association อีกด้วย

สำหรับภารกิจก้าวต่อไปที่กระทรวงฯ มีแผนดำเนินการในช่วงปี 2559-2560 ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนภายใต้แผนบูรณาการพลังงานระยะยาวทั้ง 5 แผน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าแผนดังกล่าวจะบรรลุเป้าหมายที่ตามกำหนด ซึ่งกระทรวงพลังงานได้ผลักดันโครงการต่างๆ ดังนี้ 1.) แผน PDP ปี 2559-2560 จะเร่งผลักดันการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทคโนโลยีสะอาดจังหวัดกระบี่และสงขลา โดยสำหรับโครงการโรงไฟฟ้ากระบี่ ให้การหารือในคณะกรรมการไตรภาคีได้ข้อยุติโดยเร็ว จัดทำอัตรารับซื้อไฟฟ้า (FiT) สำหรับ SPP ให้แล้วเสร็จ จัดทำข้อเสนอนโยบายอัตราค่าไฟฟ้าที่เหมาะสมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจฯ ให้แล้วเสร็จ และเร่งรัดการดำเนินโครงการ Smart Grid ตามแผน 2.) แผน AEDP ปี 2559-2560 จะดำเนินการเร่งรัดการจ่ายไฟฟ้าโครงการพลังงานทดแทนที่มีสัญญาแล้วให้เข้าระบบ(COD) อาทิ โครงการติดตั้งโซล่าร์ฟาร์มส่วนราชการและสหกรณ์การเกษตร และโครงการพลังงานทดแทนอื่นๆ ผลักดันร่าง พ.ร.บ. พลังงานทดแทนให้แล้วเสร็จและมีผลบังคับเพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการส่งเสริมพลังงานทดแทนในภาพรวมของประเทศ การส่งเสริมการผลิตการใช้ CBG เพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพเพื่อใช้ในยานยนต์ รวมถึงนำร่องการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 ในรถบรรทุกขนาดใหญ่

3.) แผน EEP ปี 2559-2560 ดำเนินการผลักดันให้เกิดโครงการ ESCO ในหน่วยงานภาครัฐ ผลักดันให้มีการออกกฏกระทรวงเพื่อให้การกำหนดมาตรฐานการใช้พลังงานในอาคารใหม่ (BEC) สามารถบังคับใช้ได้จริง โดยบูรณาการกับกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นหน่วยที่จะนำไปปฏิบัติอย่างใกล้ชิด เดินหน้าโครงการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ในโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพ เช่น อุตสาหกรรมห้องเย็น แช่แข็ง และตรวจสอบการใช้พลังงานโรงงาน/อาคารควบคุมอย่างเข้มข้น 4.) แผน Oil Plan ปี 2559-2560 ดำเนินการการผลักดัน พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้การบริหารจัดการกองทุนมีประสิทธิภาพ การผลักดันให้มีการเริ่มลงทุนโครงการระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ศึกษาและจัดทำแผนในการลดชนิดน้ำมันเชื้อเพลิงให้ชัดเจน และศึกษาและจัดทำแนวทางบริหารจัดการการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง 5.) แผน Gas Plan ปี 2559-2560 จะดำเนินการเร่งผลักดันการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม และ พรบ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ให้แล้วเสร็จเพื่อนำไปสู่การเปิดให้ยื่นสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่ บริหารจัดการแหล่งปิโตรเลียมที่จะหมดอายุให้ได้แนวทางที่ชัดเจน และ ผลักดันให้ Third Party Access (TPA Code) ไปสู่การปฏิบัติและมีผู้ประกอบการรายอื่นเข้ามาแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติได้อย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายอีก 20 ปี เมื่อสิ้นสุดแผนบูรณาการพลังงานระยะยาว จะสามารถสร้างภาคพลังงานของประเทศให้มีความมั่นคง โดยสามารถการจัดหาพลังงานเพียงพอต่อความต้องการใช้ของประชาชน โดยมีระดับการผลิตไฟฟ้าสำรองให้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 ของความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าสูงสุด และสร้างเศรษฐกิจไทยมั่งคั่ง ซึ่งสามารถทำให้ราคาพลังงานของประเทศไทยอยู่ในระดับที่เหมาะสม สะท้อนต้นทุน และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนสร้างสังคมไทยยั่งยืน ด้วยการพัฒนาพลังงานของประเทศควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทน ให้เป็น 30% จากการใช้พลังงานรวมทั้งหมด ภายในปี 2579 และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน โดยตั้งเป้าหมายลดค่าความเข้มของการใช้พลังงานลง 30% ในปี 2579 โดยคาดว่าจะสามารถลดการใช้พลังงานเป็นมูลค่า 842,130 ล้านบาทต่อปีลดการปล่อยก๊าซ CO2 ได้ 317 ล้านตัน

รมว.พลังงาน กล่าวถึงแผนงานที่จะดำเนินงานต่อไปในปีหน้า โดยยืนยันยังคงเดินหน้าผลักดันการแก้ไขร่างพ.ร.บ.ปิโตรเลียม และร่างพ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จภายใน 4 เดือนข้างหน้า ก่อนจะพิจารณาดำเนินการอย่างไรต่อไปกับปิโตรเลียมที่มีอยู่ในประเทศ และการบริหารจัดการแหล่งปิโตรเลียมที่ใกล้จะหมดอายุเพื่อไม่ให้การผลิตปิโตรเลียมหยุดชะงัก ขณะที่ยังเดินหน้าทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาว(PDP) ของประเทศ

"กฎหมายเกี่ยวข้องกับปิโตรเลียม 4 เดือนน่าจะแล้วเสร็จ คิดว่ากฤษฎีกาจะพิจารณาไม่เกิน 1 เดือน สภาฯพิจารณาอีก 3 เดือน เดือนเม.ย.ก็น่าจะพิจารณาได้ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับปิโตรเลียมที่มีอยู่"พลเอกอนันตรพร กล่าว

พล.อ.อนันตพร กล่าวอีกว่า สำหรับการผลิตไฟฟ้า กระทรวงพลังงานจะยังคงเดินหน้าผลักดันสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงในในการผลิตไฟฟ้าให้มีความเหมาะสมตามแผน PDP โดยจะเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน หลังจากล่าสุดได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการไตรภาคีขึ้นมาแล้ว ก็จะร่วมกันพิจารณาต่อไป แต่ทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้การดำเนินงานที่ถูกต้องตามขั้นตอน ทั้งในส่วนของการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) ,ผังเมือง และการพิจารณาของคณะกรรมการไตรภาคี

สำหรับการทำงานของตนเองในตั้งแต่เข้ามาเป็นรมว.พลังงาน นั้น เห็นว่าสามารถสอบผ่าน แม้ในส่วนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับปิโตรเลียมจะยังไม่สามารถได้รับการแก้ไขโดยสมบูรณ์ แต่ก็ได้ข้อสรุปในเบื้องต้นบ้างแล้ว ขณะที่การดำเนินงานในส่วนของโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม)ค้างท่อ ก็สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่ผู้ประกอบการที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจะต้องจ่ายไฟฟ้าภายในสิ้นปีนี้

นอกจากนี้ในส่วนของราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(NGV) แม้ปัจจุบันจะยังไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง แต่ก็คาดว่าในช่วงต้นปีหน้าราคา NGV น่าจะขยับมาสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงมากขึ้น หลังราคาก๊าซฯในตลาดโลกเริ่มลดลงตามราคาน้ำมัน ซึ่งจะทำให้ราคาปรับมาสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงมากขึ้น

ส่วนการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)ในวันนี้ เป็นการหารือเพื่อให้ได้รับทราบข้อมูลที่แท้จริง ทั้งในส่วนของต้นทุนตัวเลขต่างๆ เช่น ค่าการตลาดน้ำมัน ,ราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) เพื่อนำกลับมาพิจารณาในการประชุมกบง.ครั้งหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ