(เพิ่มเติม) สศค.ลุ้น GDP ปี 58 โต 3% จากมาตรการช้อปช่วยชาติ จากเดิมคาด 2.8%

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 28, 2015 15:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ประเมินว่า จากมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงปลายปี 2558 (มาตรการช้อปช่วยชาติ) จะมีส่วนสนับสนุนให้ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP) ของไทยในปีนี้เติบโตได้เพิ่มขึ้นเป็น 3% จากก่อนหน้าที่คาดไว้ที่ 2.8% โดยน่าจะช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศให้เพิ่มขึ้นอีก 0.4% พร้อมคาดว่าจากช่วงเวลา 7 วัน (25 ธ.ค.-31 ธ.ค.58) ภายใต้กำหนดเวลาของมาตรการดังกล่าวจะมียอดการใช้จ่ายราว 2.25 หมื่นล้านบาท และมีประชาชนมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษี 50% ของจำนวนผู้เสียภาษีที่มีสิทธิ 3 ล้านคน

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค. ยังคงเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2558 ไว้ที่ 2.8% แต่ยอมรับว่ายังมีปัจจัยเสริมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลออกมาก่อนหน้านี้ รวมถึงมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย 1.5 หมื่นบาท สามารถนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรม ที่จะช่วยทำให้การขยายตัวของ GDP เติบโตได้ใกล้ 3%

ขณะที่ภาคการส่งออกยังมีปัจจัยเสี่ยงที่เข้ามากระทบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ซึ่งอาจทำให้การขยายตัวของตัวเลขส่งออกไทยในปีนี้ชะลอตัวลงจากปัจจุบันคาดว่าจะติดลบ 5.4% โดยในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2558 ที่ผ่านมา ภาคการส่งออกของไทย ติดลบไปแล้ว 5.5%

"สศค.ประเมินว่ามาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วง 7 วันสุดท้ายของปี 2558 (25-31 ธ.ค.) จะช่วยให้จีดีพีขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.1% โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 2.25 หมื่นล้านบาท จากจำนวนผู้มีสิทธิขอลดหย่อนภาษีทั้งสิ้น 3 ล้านคน โดยในจำนวนนี้คาดว่า 50% จะมียอดใช้จ่ายและขอใช้สิทธิเพิ่มขึ้น รวมทั้งมองว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นตัวช่วยผลักดันให้การบริโภคภาคเอกชนปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 0.4%" นางสาวกุลยา กล่าว

สำหรับในปี 59 สศค.ยังคงคาดว่า GDP จะเติบโตได้ 3.8% โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญมาจากเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นกว่าปีนี้, การเร่งลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่จะเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่, มอเตอร์เวย์, โครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ, โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 และโครงการท่าเรือแหลมฉบัง เป็นต้น รวมทั้งภาคการท่องเที่ยวก็จะเข้ามาเป็นปัจจัยหนุนสำคัญด้วย โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังขยายตัวได้ดีในเลข 2 หลัก และการค้าชายแดนจะเข้ามามีส่วนในการสนับสนุนเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกไปยังพม่า ลาว กัมพูชา เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจประเทศดังกล่าวยังขยายตัวได้ดีที่ระดับ 7-8%

น.ส.กุลยา กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตาในปีหน้า ได้แก่ การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น จีน ไปจนถึงญี่ปุ่นที่เริ่มเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิค ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้ตัวเลขการส่งออกในปี 59 ปรับตัวลดลงจากคาดการณ์ปัจจุบันที่ 2.5% แต่ยังเชื่อมั่นว่าจะยังขยายตัวเป็นบวกได้แน่นอน

นอกจากนี้ ยังต้องจับตาความผันผวนในตลาดการเงินโลกจากการดำเนินนโยบายในทิศทางต่างๆ ของประเทศมหาอำนาจที่ไม่สอดคล้องกัน ทำให้เกิดผลกระทบด้านเงินทุนเคลื่อนย้าย และอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนมากขึ้น ไปจนถึงความผันผวนในราคาสินค้าเกษตรและน้ำมันที่ยังอยู่ในช่วงขาลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ