เงินบาทปิด 36.01/03 แข็งค่าจากมีแรงขายดอลล์ มองกรอบ 35.90-36.10

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 30, 2015 16:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 36.01/03 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 36.09/11 บาท/ดอลลาร์

โดยวันนี้เงินบาทยังแกว่งในกรอบแคบ แต่เหตุที่แข็งค่าขึ้นจากช่วงเช้าเป็นเพราะตลาดค่อนข้างจะเบาบาง ซึ่งพอมีแรงขายดอลลาร์เข้ามาแม้จะไม่มากนักก็สามารถทำให้เงินบาทกลับไปแข็งค่าได้

นักบริหารเงิน คาดว่า สัปดาห์หน้าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.90-36.10 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 36.0200 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.43/44 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 120.51/56 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0939/0942 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.0922/0923 ดอลลาร์/ยูโร
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)แถลงภาวะเศรษฐกิจและการเงินเดือน พ.ย.58 ว่า เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการใช้จ่ายภายในประเทศ ทั้งการใช้จ่ายภาครัฐที่ทำได้ดีต่อเนื่องและการใช้จ่ายภาคเอกชนที่ส่วนหนึ่งได้รับผลบวกจากปัจจัยชั่วคราวตามการเร่งซื้อรถยนต์ก่อนการปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตในปีหน้า รวมทั้งภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดี
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือน พ.ย.58 ปรับลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนที่อยู่ระดับ 50.2 มาอยู่ที่ระดับ 49.1 สะท้อนความเชื่อมั่นที่เปราะบางของผู้ประกอบการต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ส่วนอีก 3 เดือนข้างหน้าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงเชื่อมั่นต่อภาวะธุรกิจ สะท้อนจากดัชนีฯ ที่อยู่เหนือระดับ 50 อย่างไรก็ดี สัดส่วนของผู้ประกอบการที่คาดว่าภาวะธุรกิจจะปรับดีขึ้นปรับลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน

  • ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.58 ซึ่งคณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี โดยประเมินว่านโยบายการเงินในปัจจุบันยังอยู่ในระดับผ่อนปรน สะท้อนจากภาวะการเงินรวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยจากการประชุมครั้งก่อน
  • นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยกระทรวงการคลัง คาดว่าชุดมาตรการต่างๆ ของภาครัฐเพื่อสนับสนุนการลงทุนภาคเอกชน และการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ นอกจากจะเป็นแรงผลักดันเศรษฐกิจไทยในปี 59 ให้ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งผ่านการลงทุนภาคเอกชนที่จะมาเป็นอีกเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเสริมเพิ่มจากการใช้จ่ายของภาครัฐและการท่องเที่ยวที่เป็นกำลังหลักในปี 58 และการบริโภคภาคเอกชนที่ได้รับผลบวกจากความเชื่อมั่นที่ปรับดีขึ้นตามลำดับแล้ว การลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายและการดึงดูการลงทุนโดยตรงที่มีคุณภาพจากต่างประเทศจะช่วยเพิ่มระดับการลงทุนของไทยที่ปัจจุบันสัดส่วนการลงทุนรวมอยู่ที่เพียง 24% ต่อ GDP และอยู่ในระดับต่ำมาตั้งแต่วิกฤติเศรษฐกิจในปี 40

ส่วนแผนงานในปี 59 เตรียมเสนอแพ็กเกจการปฏิรูปภาษีทั้งระบบ เสนอต่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาตรวจเยี่ยมกระทรวงการคลังอีกครั้งในวันที่ 4 ม.ค.59 ซึ่งจะเป็นการปรับปรุงทั้งในส่วนของโครงสร้างภาษี ซึ่งจะมีทั้งภาษีใหม่และปรับปรุงภาษีเดิม รวมทั้ง ปรับปรุงด้านการบริหารจัดเก็บ เน้นการพัฒนาด้านไอที เช่นการทำ E-payment

พร้อมกันนั้น จะมีการปรับปรุงกฏหมายอีก 46 ฉบับทั้งของกรมสรรพสามิตและกรมสรรพากร เน้นการปรับปรุงให้เป็นตามหลักสากล ไม่ให้มีการลักลั่นและไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน รวมถึงการพัฒนาตลาดทุนเพื่อให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก(เอสเอ็มอี)สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้มากขึ้น อีกทั้งผลักดันภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้เป็นรูปธรรมภายในปี 59

  • สำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) เปิดเผยว่า หนี้สินต่างประเทศของจีนอยู่ที่ 1.53 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือนก.ย. ซึ่งปรับตัวลดลงจากตัวเลขในช่วงสิ้นเดือนมิ.ย.ที่ 1.68 ล้านล้านดอลลาร์

แท็ก เงินบาท  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ