วันนี้เงินบาทยังแกว่งอยู่ในกรอบแคบๆ ตลอดทั้งวัน โดยทำ low สุดที่ระดับ 35.82 บาท/ดอลลาร์ และ high สุดที่ระดับ 35.88 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งวันนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาที่จะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทมากนัก หลังจากที่เพิ่งผ่านปัจจัยสำคัญในเรื่องผลประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ที่เมื่อคืนนี้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามที่ตลาดคาดการณ์
นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.80-35.90 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 35.8567 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 118.74 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 118.73/78 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0915/0918 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0886/0890 ดอลลาร์/ยูโร
- นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เผยประมาณการเศรษฐกิจไทย ณ เดือน ม.ค.59 ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 58 คาดว่าจะสามารถขยายตัวได้ 2.8% เร่งขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัว 0.9% โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการใช้จ่ายภาครัฐที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 4/58 ตลอดจนมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและบรรเทาผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง
ส่วนเศรษฐกิจไทยในปี 59 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราเร่งขึ้น โดยได้รับอานิสงส์จากมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ อาทิ โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวประชารัฐ ที่รัฐบาลสนับสนุนเงินทุนให้แก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจำนวน 79,556 กองทุน กองทุนละไม่เกิน 500,000 บาท ภายใต้วงเงินรวม 35,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในปี 59 สามารถขยายตัว 3.7% (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 3.2-4.2%
- นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เผยเศรษฐกิจไทยในเดือน ธ.ค.58 และไตรมาส 4/58 สะท้อนการฟื้นตัวของการใช้จ่ายในประเทศ ทั้งจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ก.ย.58 เป็นต้นมา อีกทั้งการใช้จ่ายของรัฐบาล โดยเฉพาะรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลที่ขยายตัวได้ต่อเนื่องในระดับสูง ถือเป็นปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าของไทยยังคงหดตัวต่อเนื่องสะท้อนภาวะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าจองไทยที่ยังชะลอตัว ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในปี 59 นี้ต่อไป
- ธนาคารกลางจีนอัดฉีดเม็ดเงินมูลค่า 3.40 แสนล้านหยวนเข้าสู่ตลาดการเงินผ่านการดำเนินงานทางตลาดเงิน (open market operations) ในวันนี้ เพื่อป้องกันภาวะสภาพคล่องตึงตัวในช่วงวันหยุดยาว และเพื่อชดเชยกับกระแสเงินทุนที่สะพัดออกอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเม็ดเงินไปแล้ว 4.4 แสนล้านหยวน
- กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เผยยอดค้าปลีกเดือน ธ.ค.58 หดตัวลง 1.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเดือนที่ 2 และสะท้อนให้เห็นว่าอุปสงค์ของภาคครัวเรือนญี่ปุ่นชะลอตัวลง รวมทั้งผลกระทบที่เกิดจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน
- สำนักงานวิจัยและสถิติ กระทรวงทรัพยากรมนุษย์ของสิงคโปร์ เผยอัตราว่างงานโดยรวมของสิงคโปร์ในเดือน ธ.ค.58 ลดลงแตะ 1.9% จากระดับ 2.0% ในเดือน ก.ย.58 โดยอัตราว่างงานเฉลี่ยรายปีในปี 58 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงนับแต่ปี 54 ที่ 1.9%