นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.81 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 35.83 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 35.80-35.86 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสมผสาน เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา
"ก่อน กนง.จะประกาศมติออกมา เงินบาทอยู่ที่ 35.85 บาท/ดอลลาร์ พอประกาศแล้วค่อยๆ แข็งค่าลงมา" นักบริหารเงิน กล่าว
ตลาดรอดูการประกาศตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนในสหรัฐคืนนี้ ซึ่งจะมีผลต่อตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐที่จะประกาศในคืนวันศุกร์
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 35.75-35.90 บาท/ดอลลาร์เช่นเดิม
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119. เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 119.57 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.09 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0927 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,291.77 จุด เพิ่มขึ้น 6.47 จุด, +0.50% มูลค่าการซื้อขาย 39,654.93 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,227.79 ล้านบาท (SET+MAI)
- คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี โดยคณะกรรมการฯ ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2559 ยังคงขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อนที่ 3.5%
- กรุงเทพโพลล์ เผยผลดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 33.93 (เต็ม 100) เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมาที่อยู่ในระดับ 31.69 และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี นับจากเดือน ม.ค.57 ขณะที่ปัจจัยด้านการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ส่งผลให้ค่าดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 60.66 ซึ่งมีระดับสูงสุดนับจากเริ่มจัดทำดัชนีเมื่อปี 53 เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ค่าดัชนีอยู่ในระดับสูงสุดนับจากมีการจัดทำดัชนีเช่นเดียวกัน โดยมีค่าดัชนีเท่ากับ 81.15
- นายเกรียงไกร ทำนุทัศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เออีซี (AECS) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือน ก.พ. 59 มีแนวโน้ม Sideway up แต่การฟื้นตัวจะไม่เร็วเท่าเดือนก่อนหน้า เนื่องจากยังมีปัจจัยเสี่ยงทั้งในและนอกประเทศกดดัน อย่างไรก็ตาม ตลาดฯ ยังสามารถลงทุนได้ ตราบใดที่ยังไม่หลุด 1,260 จุดและมองว่าหุ้นไทยในระยะ 3 เดือนข้างหน้ามีโอกาสที่จะกลับมาปรับตัวขึ้นในระดับที่น่าสนใจที่เป้าหมาย 1,390 จุด
- รายงานการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เมื่อวันที่ 17-18 ธ.ค.ที่มีการเปิดเผยในวันนี้ ระบุว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินรายหนึ่งของ BOJ ได้ออกมาเตือนว่ามาตรการต่างๆของ BOJ ที่สนับสนุนนโยบายผ่อนคลายทางการเงินนั้น อาจจะเป็นสาเหตุตลาดเกิดความเข้าใจผิดในประเด็นที่ว่าการผ่อนคลายขนานใหญ่ของ BOJ กำลังใกล้ถึงขีดจำกัด
- นายฮารุฮิโกะ คูโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ส่งสัญญาณว่า BOJ อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับสถาบันการเงินต่างๆที่นำเงินมาสำรองฝากไว้กับ BOJ ลงจากระดับปัจจุบันที่ -0.1% หากพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็น
- กระทรวงการคลังของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ทางกระทรวงจะระงับการขายพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีให้กับนักลงทุนรายย่อยผ่านทางธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากผลตอบแทนได้ปรับตัวลดลงในระยะนี้หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ตัดสินใจใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- องค์การการท่องเที่ยวโลก (WTO) คาดการณ์ว่า จำนวนชาวจีนที่จะเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกินหลัก 6 ล้านคนในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าจีนยังคงเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก