พล.ต.
สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำ
สำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม
คณะรัฐมนตรี (
ครม.) อนุมัติให้ปรับกรอบวงเงินลงทุนและจัดหาแหล่งเงินเพิ่มเติม สำหรับโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ในส่วนของสัญญาที่ 3 ระบบราง อาณัติสัญญาน และตัว
รถไฟฟ้า จากเดิม 25,656 ล้านบาท เป็น 32,400 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นอีก 6,744 ล้านบาท เนื่องจากเกิดความล่าช้าในการประมูลหาผู้รับเหมาจากแผนไป 4 ปี เพราะติดเงื่อนไขเงินกู้จากไจก้า ซึ่งขณะนี้ได้ผู้รับเหมาแล้วคือ กิจการร่วมค้า MHSC (มิตซูบิชิ, ฮิตาชิ, ซูมิโตโม) ส่งผลให้มูลค่าทั้งโครงการเพิ่มจาก 7.5 หมื่นล้านบาท เป็น 9.3 หมื่นล้านบาท
"เนื่องจากห้วงเวลาทำให้ค่าใช้จ่ายเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ทั้งค่าโสหุ้ย ค่าอุปกรณ์ ...ครม.ได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่าได้ปรึกษาหารือกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบังเรียบร้อยแล้ว คำนวณกันละเอียดยิบแล้ว ก็เห็นว่ามีความเหมาะสมก็อนุมัติให้ปรับกรอบ" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันในสัญญาที่ 1 งานโยธาได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะที่การก่อสร้างช่วงบางซื่อ-รังสิตในสัญญาที่ 1 ซึ่งเป็นสถานีบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุงดำเนินการไปได้แล้ว 30% และสัญญาที่ 2 งานโยธาระบบเส้นทางดำเนินการไปได้เพียง 50% ซึ่งเนื้องานล่าช้ากว่าแผนราว 10% ทำให้แล้วเสร็จล่าช้าจากเดิมในปี 61 ไปเป็นปี 62
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม กล่าวถึงการเดินรถสายสีแดงว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ยืนยันจะเป็นผู้เดินรถเอง เนื่องจากได้ลงทุนการก่อสร้างและจัดหาระบบแล้ว โดยหาก 3-5 ปี การเดินรถไม่ประสบความสำเร็จ ร.ฟ.ท.พร้อมจะเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมเดินรถ ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาเพื่อจัดทำแผนเสนอคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ต่อไป
ด้านนายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รองผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า ร.ฟ.ท.ได้จัดทำร่างสัญญาที่ 3 เรียบร้อยแล้ว โดยอัยการและทางไจก้าได้ตรวจสอบร่างสัญญาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น เมื่อครม.เห็นชอบปรับกรอบวงเงินสัญญา 3 แล้ว คาดว่าจะสรุปรายละเอียดและลงนามสัญญากับกลุ่มกิจการร่วมค้า MHSC ได้ภายใน 2-3 สัปดาห์นี้ โดยคาดว่าจะเปิดเดินรถในปี 2562
อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ธนวัฏ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์:
[email protected]