ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.42/44 แนวโน้มแข็งค่า รอดูถ้อยแถลงของเฟด มองกรอบพรุ่งนี้ 35.35-35.45

ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 7, 2016 17:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.42/44 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ
35.45/47 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ โดยไม่มีปัจจัยสำคัญที่มีผลกับการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ เป็นเพียง flow ซื้อ-ขายตามปกติ โดยวันนี้บาท low สุดที่ระดับ 35.38/40 บาท/ดอลลาร์ และ high สุดที่ระดับ 35.48/50 บาท/ ดอลลาร์ แต่คืนนี้คงต้องรอฟังแนวโน้มเศรษฐกิจและสภาพคล่องของสหรัฐฯ จากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ว่าทิศทาง จะออกมาอย่างไร

"วันนี้บาทแกว่งแคบๆ ไม่ได้มีปัจจัยอะไรนอกจาก flow ปกติ คงต้องรอฟังถ้อยแถลงของนางเบรนนาร์ด จนท.เฟดคืนนี้ ก่อนว่าจะมี comment อะไรออกมา แต่แนวโน้มมองแล้วบาทยังมีโอกาสแข็งค่าได้" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทยังมีโอกาสแข็งค่า โดยให้กรอบการเคลื่อนไหวไว้ที่ 35.35-35.45 บาท/ ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.50/53 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 113.67/70 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโร เย็นนี้อยู่ที่ระดับ 1.0954/0956 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0983/0989 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,395.75 เพิ่มขึ้น 16.22 จุด (+1.18%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 62,112 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 833.67 ลบ.(SET+MAI)
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังหารือกับสุลต่านอาเหม็ด บิน สุลาเยม ประธานกรรมการ
บริษัท DP World จำกัด ว่า ขณะนี้ผลตอบแทนเงินลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกลดต่ำลง อัตราดอกเบี้ยเงินฝากหลายประเทศอยู่ระดับต่ำ
เช่น ญี่ปุ่นมีดอกเบี้ยแทบติดลบ ทำให้หลายประเทศที่มีกำลังเงินลงทุนสูง นำเงินลงทุนออกไปแสวงหาช่องทางการลงทุนในต่าง
ประเทศ และขณะนี้มีนักลงทุนหลายประเทศเข้ามาเจรจาลงทุนในประเทศไทยถือเป็นโอกาสของไทยในช่วงเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่
มีหลายประเทศเข้ามาเจรจาการลงทุนจึงจำเป็นต้องทำตัวเองให้เกิดความเชื่อมั่นในสายตาต่างชาติ
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเขตเศรษฐกิจพิเศษ ได้เห็นชอบให้มีการ
จัดตั้งสำนักงานขับเคลื่อนการบริหารงานเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อขับเคลื่อนและบริหารจัดการในเขตเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้งหมด
  • นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ
ได้สั่งการให้กระทรวงการคลังไปศึกษามาตรการกระตุ้นการบริโภคภาคเอกชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เช่น เกษตรกรที่ได้รับ
ผลกระทบจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ รวมทั้งข้าราชการ ลูกจ้าง และผู้ใช้แรงงานที่มีรายได้น้อยว่าจะสามารถใส่เงินเข้าไปในระบบ
ผ่านกลุ่มคนเหล่านี้อย่างไร เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้า และขอให้มีข้อสรุปภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ก่อนจะออกมา
เป็นมาตรการต่อไป
  • นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) คาดว่าปีนี้ต่างชาติจะเข้ามา
ลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น โดยเชื่อว่าทั้งปีจะมีตัวเลขเป็นซื้อสุทธิ จากปีก่อนที่ต่างชาติขายสุทธิไปราว 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งตั้งแต่
ช่วงต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมียอดซื้อสุทธิเข้ามาแล้ว 5.8 พันล้านบาท โดยมองว่าเป็นผลมาจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
ออกมาค่อนข้างดี โดยกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในปี 58 ที่ผ่านมาติดลบเพียง 1.3% แต่อย่างไรก็ตาม หากตัดผลประกอบการ
ของบริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจด้านน้ำมัน ปิโตรเคมี จะส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนมีกำไรสุทธิเติบโต 5.95% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่
ดีที่สุดในอาเซียน
  • นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าในเรื่องการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้น
แปซิฟิก (Trans-Pacific partnership: TPP) นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไทยคงจะเข้าร่วม
เจรจากในการเข้าเป็นสมาชิก TPP แต่ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาเตรียมการรองรับประเด็นต่าง ๆ
  • นายหลู จีเหว่ย รมว.คลังจีน เปิดเผยว่า กลไกตลาดและการสนับสนุนจากรัฐบาล อาจช่วยให้จีนสามารถจัดการหนี้
เสียที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยได้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมระบุว่า ความวิตกเกี่ยวกับการปรับตัวขึ้นของหนี้เสียนั้นไม่ได้มีสาเหตุมา
จากความไม่เชื่อมั่นในสถานะของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในธนาคารต่างๆ ของกระทรวง แต่เป็นเรื่องความสำคัญของธนาคารที่มีต่อระบบการ
เงินและเศรษฐกิจของประเทศ

ทั้งนี้ คณะกรรมการกำกับดูแลภาคธนาคารจีน (CBRC) เปิดเผยว่า ภาคธนาคารของจีนมีสัดส่วนหนี้เสียเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ ระดับ 1.67% ในปี 2558 คิดเป็นมูลค่า 1.27 ล้านล้านหยวน (1.95 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเทียบกับปี 2557 ที่มีสัดส่วนหนี้ เสีย 1.64%

  • รมว.คลังจีน เปิดเผยว่า จีนเสร็จสิ้นการวางแผนปฏิรูปภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแล้ว และจะยื่นต่อสภานิติบัญญัติแห่ง
ชาติเพื่อพิจารณาในปีนี้ โดยการปฏิรูปภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้นไม่ได้มุ่งเน้นเพียงประเด็นพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงรายรับและ
รายจ่ายทั้งหมด อาทิ สินเชื่อที่อยู่อาศัย, ค่าใช้จ่ายในการศึกษา, การศึกษาของเด็ก และการดูแลผู้สูงอายุ
  • ธนาคารเพื่อการชำระบัญชีระหว่างประเทศ (BIS) เปิดเผยในรายงานตลาดเงินประจำไตรมาสว่า การใช้นโยบาย

ดอกเบี้ยติดลบอาจไม่ได้ผลตามที่คาดหวังไว้ และอาจส่งผลกระทบตามมา รายงานยังระบุว่านอกเหนือจากความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในช่วง

ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาแล้ว ตลาดยังวิตกว่าธนาคารกลางของหลายประเทศอาจไม่สามารถหานโยบายดีๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ทั้งยัง

ไม่สามารถคาดการณ์ได้อย่างแน่นอนว่าบุคคลทั่วไปและภาคสถาบันจะมีการตอบรับอย่างไร หากมีการปรับดอกเบี้ยลดลงอีก


แท็ก เงินบาท   เฟด  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ