นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.32 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ ระดับ 35.32/34 บาท/ดอลลาร์
วันนี้เงินบาททำ high สุดที่ระดับ 35.41 บาท/ดอลลาร์ และ low สุดที่ระดับ 35.30 บาท/ดอลลาร์ ทิศทางพรุ่งนี้ยัง มีโอกาสอ่อนค่าจากแรงซื้อดอลลาร์ที่มักจะมีมากในช่วงปลายเดือน ประกอบกับตัวเลข GDP ของสหรัฐในไตรมาส 4/58 ออกมาค่อน ข้างดี ซึ่งน่าจะทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าได้
"พรุ่งนี้บาทก็น่าจะอ่อนค่าต่อ เพราะเป็นช่วงปลายเดือน นอกจากนี้ตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ ออกมาดีด้วย เพียงแต่วันนี้ ตลาดเงินตลาดทุนสหรัฐฯ หยุดช่วงเทศกาลอีสเตอร์ คาดว่าพรุ่งนี้คงได้เห็น react ออกมา" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทยังมีโอกาสจะอ่อนค่าได้ โดยประเมินว่าพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.30 - 35.50 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.40 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 113.56 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรช่วงเย็นอยู่ที่ระดับ 1.1166 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1154/4455 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,389.01 ลดลง 5.77 จุด (-0.41%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 27,672 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 328.27 ลบ.(SET+MAI)
- รมว.คลัง เล็งเสนอมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว-กินอาหารเข้าครม.พรุ่งนี้เพื่อให้ทันเทศกาลสงกรานต์
- พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า
ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ฝั่งตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี จะเลื่อนไปเสนอที่ประชุม ครม.ในวันอังคาร หน้า (5 เม.ย.) เนื่องจากได้มีการปรับลดวงเงินลงทุนลง 2 พันล้านบาท เหลือ 9.2 หมื่นล้านบาท จากเดิม 9.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งหลังจาก ครม.อนุมัติก็คาดว่าจะสามารถเปิดประมูลได้ภายใน 3 เดือน หรือประมาณเดือน มิ.ย.59 เพื่อจัดทำร่างประกวดราคา และหาราคากลาง
- นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรมว.คลัง และ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เข้ายื่นข้อเสนอเรื่องรถไฟความเร็วสูงถึง
- แหล่งข่าวจากรัฐบาลญี่ปุ่น เปิดเผยว่า รัฐบาลและพรรครัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีมูลค่า
- นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกจับตาดูการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ
- รายงานของสถาบันยุทธศาสตร์เศรษฐกิจแห่งชาติของจีน (NAES) คาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน
- นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือน มี.ค.จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง ชะลอ
ตัวลงจากเดือน ก.พ.ที่พุ่งขึ้น 242,000 ตำแหน่ง ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน
(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพียง 2 ครั้งในปีนี้ ลดลงจากเดิมที่คาดว่า
จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 4 ครั้ง โดยการลดคาดการณ์จำนวนครั้งของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ บ่งชี้ว่าเฟดมีความ
ระมัดระวังเพิ่มขึ้น ท่ามกลางการขยายตัวที่อ่อนแอในต่างประเทศและตลาดการเงินที่ผันผวน