ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.08/10 แนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง ลุ้นทดสอบ 35.20 ติดตามประชุมเฟดกลางสัปดาห์นี้

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 25, 2016 09:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 35.08/10 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาด ที่ระดับ 35.02/03 บาท

"เช้านี้หลัง Break 35.10 ก็พยายามมา Test 35.20 ประเด็นคือดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับหยวนค่อนข้างเยอะ รวมทั้งดอลลาร์บาท เงินบาทก็อ่อนค่าหลังธนาคารกลางจีนอัดฉีดแงินเข้าสู่ตลาดมูลค่า 2.4 แสนล้านหยวน" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่ากรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทระหว่าง 35.05 บาท/ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านถ้ายืนเหนือ 35.10 ได้ ก็น่าจะไปใกล้ๆ 35.20 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.15 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 110.53 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1239 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 1.1280 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.0510 บาท/
ดอลลาร์
  • ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (25-29 เม.ย.) ที่ 34.90-
35.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (26-27 เม.ย.) และธนาคาร
กลางญี่ปุ่น (27-28 เม.ย.)

ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญประกอบด้วย ดัชนี PMI เขตชิคาโก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนี PMI ภาคบริการ (เบื้องต้น) เดือนเม.ย. ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ดัชนีราคาการใช้ จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค. และข้อมูลจีดีพีประจำไตรมาส 1/59 นอกจากนี้ ตลาดในประเทศอาจติดตามข้อมูล การค้าระหว่างประเทศ และตัวเลขเศรษฐกิจไทยในเดือนมี.ค. ด้วยเช่นกัน

  • ผลประกอบการธนาคารพาณิชย์ไตรมาสแรกของปี 2559 นั้น ยังคงถูกแรงกดดันภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้การ
ขยายตัวของสินเชื่ออันเป็นที่มาของรายได้หลักได้รับผลกระทบไปด้วย ขณะที่ปัญหาด้านคุณภาพหนี้ยังคงมีอยู่และทำให้ธนาคารต้องกัน
สำรองเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต ส่งผลให้กำไรของธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 4 แห่งลด
ลง และจากการกันสำรองที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มในระยะต่อไปที่ยังไม่น่าจะดีขึ้นนัก
  • "พาณิชย์" ประกาศตัวเลขส่งออกเดือน มี.ค.2559 วันนี้ ขยายตัว 1.3% ขณะที่รวม 3 เดือนแรกของปีนี้ส่งออกอยู่
ในแดนบวกแล้ว 0.9% สินค้าเกษตรหดตัวจากราคาสินค้าที่ลดลง ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่อง ด้านการนำเข้าสินค้าทุน
และวัตถุดิบมีแนวโน้มดีขึ้น สะท้อนการลงทุนในประเทศเริ่มกลับมาฟื้นตัว เทียบกับประเทศอื่นทั่วโลกที่ยังติดลบ
  • ผลสำรวจของมาร์กิต อิโคโนมิค ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนเม.ย.ของ
สหรัฐ อยู่ที่ระดับ 50.8 ลดลงจากระดับ 51.5 ในเดือนมี.ค. โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนเม.ย.เคลื่อนไหวที่ระดับต่ำสุดนับตั้ง
แต่เดือนก.ย.2552
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (22 เม.ย.) หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าภาวะอุป
ทานน้ำมันในสหรัฐเริ่มปรับตัวลดลง โดยเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการแก่อุตสาหกรรมน้ำมัน เปิดเผยว่า จำนวนแท่นขุดเจาะ
น้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐลดลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุ
ว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 1.3%
ปิดที่ 43.73 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 58 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 45.11 ดอลลาร์/
บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 20 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ (22 เม.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงิน
ดอลลาร์สหรัฐ ได้กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำ นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมของธนาคาร
กลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง
20.3 ดอลลาร์ หรือ 1.63% ปิดที่ 1,230.00 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวัน
ศุกร์ (22 เม.ย.) โดยดอลลาร์พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากมีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะขยายนโยบาย
อัตราดอกเบี้ยติดลบ ขณะที่เงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากมีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะใช้
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่ยูโรร่วงลงสู่ระดับ 1.1227 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1289 ดอลลาร์สหรัฐ
  • ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) เปิดเผยในวันนี้ว่า ปริมาณการปล่อยกู้ทั้งหมดในปีที่แล้วอยู่ที่ระดับ 2.717
หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของทางธนาคาร

วงเงินดังกล่าวรวมถึงการให้เงินกู้และเงินให้เปล่าจำนวน 1.629 หมื่นล้านดอลลาร์, การช่วยเหลือทางด้าน เทคนิค 141 ล้านดอลลาร์, การปล่อยเงินกู้ร่วม 1.074 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งพุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ 16%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ