"สมคิด"รับเป็นห่วงสถานการณ์ส่งออกของไทย มองเป็นปัจจัยหลักที่ต้องเฝ้าระวัง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 25, 2016 16:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าเป็นห่วงสถานการณ์ส่งออกของไทย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด แต่ไม่อยากให้คิดว่าตัวเลขส่งออกปีนี้จะโตได้ 5% หรือกี่เปอร์เซนต์ หรือจะโตติดลบ เพราะส่วนหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ ขณะนี้เศรษฐกิจโลกยังทรุดอยู่ แต่เราสามารถประคองตัวไม่ให้ทรุดตามไปจะมีประโยชน์มากกว่า

อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้มองโลกในแง่ร้ายเกินไป อยากให้มองในแง่บวกบ้าง ตอนนี้เพิ่งจะเดือนพ.ค. ยังมีเวลาอีก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคิดในส่วนนี้ให้มากขึ้น

"หลายฝ่ายมีความเป็นห่วงว่าปัจจัยเสี่ยงที่จะมีผลกับเศรษฐกิจของไทยหลัก ๆ มาจากปัจจัยเรื่องเศรษฐกิจโลกที่ทรุดตัวและปัญหาการเมือง ซึ่งถือเป็นปัญหาภายในของเราเอง ทั้ง 2 ปัจจัย control ไม่ได้เลย แต่ในส่วนปัจจัยในประเทศต้องแยกออกมาด้วยว่าส่วนไหนที่มันยังทำงานได้ดีก็เข้าไปกระตุ้นในส่วนนั้น เช่น การลงทุนของภาคอกชน และภาคท่องเที่ยว ที่ยังดีอยู่เราก็ต้องรักษาเอาไว้ ไม่ให้มันแผ่วลง เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าเศรษฐกกิจโลกไม่ไดีแน่นอน ดังนั้นเราต้องพยายามทำในส่วนที่ทำได้ให้ดีที่สุด"นายสมคิด กล่าว

นายสมคิด กล่าวว่า ในการประชุมผู้บริหารกระทรวงการคลังวันนี้ได้กำชับทุกหน่วยงานให้เร่งดำเนินงานบนความไม่ประมาทเพื่อให้ภาพรวมเศรษฐกิจโตได้ตามเป้าหมาย โดยกำชับการจัดเก็บรายได้ต้องเป็นไปตามเป้าหมาย รวมถึงรัฐวิสาหกิจต้องมีการลงทุนให้ได้ตามเป้าหมายด้วยเช่นเดียวกัน

"ศุกร์นี้ สคร.จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ซึ่งจะมีการติดตามแผนการลงทุนของรัฐวิสาหกิจทุกหน่วยงาน ในส่วนนี้ถือเป็นการเร่งรัดการเบิกจ่ายการลงทุนของรัฐวิสาหกิจได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ในเดือนมิ.ย.จะให้มีการประกวดราคา ของรถไฟฟ้า 3 สาย คือสายสีเหลือง สีชมพู และสายสีส้ม เชื่อว่า บรรยากาศการลงทุนจะเปลี่ยนไปในภาพที่ดีขึ้ นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้ทอท.เร่งทำแผนเกี่ยวกับภาพรวมการลงทุนทั้งหมดในปีนี้ ให้ออกมาเป็นรูปธรรมเพื่อสรุปแผนการลงทุนให้มีความชัดเจน ส่วนท่าอากาศยานอื่นๆที่ไม่ได้อยู่ในความดูแลจะให้กระทรวงคมนาคมไปเจรจาและเร่งจัดทำแผนในลักษณะเดียวกัน"

ส่วนรายได้จากการประมูล 4G รวมถึงรายได้นอกงบประมาณอื่นๆที่จะเข้ามา อยากให้มีการใช้จ่ายที่เป็นประโยชน์กับประเทศต้องไปดูว่าจะเอาไปทำอะไรได้บ้าง แต่หลักๆ ต้องการให้เป็นการต่อยอดอนาตของประเทศที่เน้นเรื่องดิจิตอลมากกว่า

ขณะที่ได้มอบหมายธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เร่งพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือดอกเบี้ยต่ำสำหรับเกษตรกรหลังเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนในการเพาะปลูก

"แผนงานทั้งหมดนี้ กระทรวงการคลังจะเป็นหลักที่คอยควบคุม และที่ผ่านมา สศค.ประเมินแล้วว่าเศรษฐกิจไตรมาสต่อๆไปของเราจะเดินไปได้ด้วยดี ผมก็มั่นใจตรงนี้แม้ว่าส่งออกจะไม่ดี แต่ก็เป็นผลมาจากปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ไม่ดี"นายสมคิด กล่าว

นอกจากนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และไม่เคยหารือกัน

ขณะที่นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ยืนยันว่า GDP ทั้งปีจะโต 3.3% จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยโดยรวมดีขึ้น บการริโภคภายในประเทศฟื้นตัว สะท้อนจากการจัดเก็บ VAT เดือน พ.ค.ช่วง 10 วันที่ผ่านมาโต 40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากมาตรการจัดทำบัญชีเดียว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ