รมว.เกษตรฯ สั่งติดตามสถานการณ์การเพาะปลูกข้าวใกล้ชิด หลังช่วงภัยแล้งมีปริมาณน้อย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 15, 2016 16:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งที่ผ่านมา มีการเพาะปลูกข้าวในปริมาณที่น้อยกว่าในช่วงระยะเวลาเดียวกัน ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวอาจจะทำให้เกิดการกระจุกตัวเมื่อเกษตรกรสามารถทำการเพาะปลูกได้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงต้องเน้นย้ำให้เกษตรกร โดยเฉพาะในลุ่มน้ำเจ้าพระยาจะเน้นให้ใช้พันธุ์ข้าวที่จะได้ผลผลิตเร็วและใช้ระยะเวลาไม่มาก เกษตรกรจะสามารถวางแผนการเพาะปลูกให้ได้ผลผลิตที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ได้มอบหมายนายศักดิ์ชัย ศรีบุญซื่อ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการเข้าไปดูการเรื่องสถานการณ์การเพาะปลูกข้าวอย่างใกล้ชิด

จากสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง จำนวน 481 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 14 มิ.ย. 59) มีปริมาตรน้ำใช้การได้ 8,783 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 17% ปริมาณน้ำไหลลงอ่างรวม 55.49 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำระบายรวม 70.40 ล้าน ลบ.ม. และสถานการณ์ในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 อ่างฯ ได้แก่ เขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อยฯ และป่าสักฯ มีปริมาตรน้ำใช้การได้รวม 1,349 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 7% ปริมาณน้ำไหลลงอ่างรวม 16.91 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำระบายรวม 17.70 ล้าน ลบ.ม.

สำหรับสถานการณ์การเพาะปลูกข้าว มีผลการปลูกพืชฤดูแล้งปี 2558/59 ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.58 – 30 เม.ย.59 ทั้งประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 8.18 ล้านไร่ แบ่งเป็น ในเขตชลประทาน จำนวน 4.09 ล้านไร่ และนอกเขตชลประทาน จำนวน 4.09 ล้านไร่ และสถานการณ์ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา จำนวน 22 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 0.60 ล้านไร่ แบ่งเป็น ในเขตชลประทาน จำนวน 2.08 ล้านไร่ และนอกเขตชลประทาน จำนวน 1.67 ล้านไร่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ