(เพิ่มเติม) นายกฯ มอบรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่นประจำปี 59 เพื่อหนุนเพิ่มประสิทธิภาพช่วยขับเคลื่อนศก.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday July 11, 2016 13:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังมอบรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น ประจำปี 59 โดยระบุว่า กองทุนหมุนเวียนเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานยุทธศาสตร์ให้กับประเทศ ซึ่งรัฐบาลมองเห็นถึงความตั้งใจในการบริการจัดการของทุกกองทุนและให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก แต่ไม่มีใครสามารถแก้ปัญหาให้กับประเทศได้ด้วยตัวคนเดียว หรือวิธีการอย่างเดียว จำเป็นต้องมีการปฏิรูปใหม่ทั้งหมด ทั้งการบริหารจัดการ เจ้าหน้าที่ และต้องมีการวัดผลสัมฤทธิ์ในการดำเนินงาน ซึ่งในส่วนกองทุนก็มอบหมายให้กระทรวงการคลังสำรวจดูว่าก่อนปี 57 มีผลสำเร็จอะไรไปแล้วบ้าง และหลังจากนั้นมีอะไรที่เกิดขึ้นและเป็นผลสำเร็จ

"การทำงานนั้นอย่าทำงานตามหน้าที่หรือตามกฎหมายวางกรอบไว้ จะต้องคิดนอกกรอบอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่รอคำสั่งจากข้างบนอย่างเดียว จะต้องปรึกษาหารือกันก่อนมาเสนอรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ หากติดขัดในเรื่องกฎหมายก็พร้อมที่จะดำเนินการแก้ไขให้เพื่อให้เกิดความสะดวกมากขึ้น ซึ่งตนจะพิจารณาดูว่าจะใช้กฎหมายที่มีพิจารณาดำเนินการได้อย่างไร หรือหากจะต้องใช้มาตรา 44 ก็พร้อมนำมาใช้ให้งานสามารถขับเคลื่อนไปได้"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางได้จัดพิธีมอบรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น ประจำปี 2559 โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อมอบรางวัลแก่ทุนหมุนเวียนที่มีผลการประเมินการดำเนินงานดีเด่น เพื่อสนับสนุนให้เร่งพัฒนาการบริหารและการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์การประเมินผลที่กำหนดไว้ โดยมีเป้าหมายให้ทุนหมุนเวียนทุกแห่งมีมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับในระดับสากล รวมทั้งเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงาน ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาประเทศต่อไป

นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า เงินนอกงบประมาณ ถือเป็นเครื่องมือสำคัญของภาครัฐที่ช่วยผลักดันนโยบายด้านต่างๆ ของประเทศ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การบริหารและพัฒนาประเทศ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ในเชิงนโยบายรัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการสนับสนุนและส่งเสริมให้ทุนหมุนเวียนสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยกรมบัญชีกลางได้จัดให้มีระบบประเมินผลการดำเนินงานของทุนหมุนเวียนต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปีบัญชี 2547 โดยปัจจุบันมีทุนหมุนเวียนที่กรมบัญชีกลางกำกับดูแล 116 ทุน มูลค่าสินทรัพย์ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2559 อยู่ที่ 3.35 ล้านล้านบาท

อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวต่อว่า ทุนหมุนเวียนที่ได้รับรางวัลประจำปี 2559 มีจำนวนทั้งสิ้น 17 รางวัล โดยแบ่งเป็น 4 ประเภทรางวัล ดังนี้

1. รางวัลผลการดำเนินงานดีเด่น จำนวน 6 ทุน ได้แก่ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กองทุนสนับสนุนการวิจัย กองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน กองทุนพัฒนาสหกรณ์ และเงินทุนหมุนเวียนการแสดงเหรียญกษาปณ์และเงินตราไทย ซึ่งเป็นทุนหมุนเวียนที่มีผลการดำเนินงานโดยรวมดีเด่น สามารถดำเนินงานตามแผนงาน/โครงการที่กำหนดไว้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล บรรลุเป้าหมายตามภารกิจ

2. รางวัลการพัฒนาดีเด่น ประเภทดีเด่น จำนวน 3 ทุน ได้แก่ กองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทุนเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบ ประเภทชมเชย 2 ทุน ได้แก่ เงินทุนหมุนเวียนโรงงานในอารักษ์ กองทุนพัฒนาสหกรณ์ เป็นรางวัลสำหรับทุนหมุนเวียนที่มีการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน ตามเป้าหมายหรือมาตรฐานที่กำหนดไว้ให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

3. รางวัลประสิทธิภาพด้านการบริหารพัฒนาทุนหมุนเวียนดีเด่น จำนวน 5 ทุน ได้แก่ กองทุนสนับสนุนการวิจัย กองทุนเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ เงินทุนหมุนเวียนการแสดงเหรียญกษาปณ์และเงินตราไทย กองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

รางวัลนี้มอบให้กับทุนหมุนเวียนที่มีการบริหารจัดการองค์กรครอบคลุมตามกรอบการประเมินด้านการบริหารพัฒนา ใน 6 หัวข้อ คือ 1) บทบาทคณะกรรมการทุนหมุนเวียน 2) การบริหารความเสี่ยง 3) การควบคุมภายใน 4) การตรวจสอบภายใน 5) การบริหารจัดการสารสนเทศ และ 6) การบริหารทรัพยากรบุคคล

4. รางวัลทุนหมุนเวียนเกียรติยศ จำนวน 1 ทุน ได้แก่ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งเป็นรางวัลเชิดชูเกียรติให้กับทุนหมุนเวียนที่มีการบริหารจัดการที่ดี มีผลการดำเนินงานในระดับดีเด่นอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การสร้างความยั่งยืนขององค์กร รางวัลต่างๆ ที่ทุนหมุนเวียนได้รับต้องผ่านการพิจารณาคัดเลือกจากคณะกรรมการตัดสินรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น ที่ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ ซึ่งมีเกณฑ์วัดทั้งด้านประสิทธิภาพการบริหารงาน ด้านการปรับปรุงและพัฒนา และวัดผลการดำเนินงานที่บรรลุเป้าหมายตามภารกิจ โดยจัดงานมอบรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่นมาอย่างต่อเนื่อง ปีนี้เป็นปีที่ 9 แล้ว

"การมอบรางวัล ถือเป็นแรงผลักดันทุนหมุนเวียนเร่งพัฒนาผลการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ เนื่องจากทุนหมุนเวียนมีส่วนในการส่งเสริม ผลักดัน กระตุ้น พัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นระบบสาธารณสุข กฎหมาย เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ประเทศไทยปี 2558-2563 ว่า "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" กล่าวคือ ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ใช้ความรุนแรงหรือวิถีนอกกฎหมาย มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามสมควรแก่ฐานะ เชื่อมโยงเศรษฐกิจกับตลาดโลกโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น มีการบริหารจัดการภายในประเทศอย่างบูรณาการ และการคำนึงถึงความเหมาะสม คุ้มค่าในการปฏิบัติงาน รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ตลอดจนมีภูมิคุ้มกันตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" นายมนัส กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ