ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.03/04 แข็งค่าจากช่วงเช้าคาด Fund Flow ไหลเข้ามา มีลุ้นหลุด 35.00 จับตาผลประชุม BoE

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 14, 2016 17:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 35.03/04 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ตอนเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.20/21 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันทดสอบ High ตอนเปิดตลาด และทดสอบ Low ตอนปิดตลาด

"เมื่อเช้าเปิดมาแล้วก็ไม่ขยับ เห็นเยนขึ้นไปทำ High ในรอบ 1 สัปดาห์ มองว่าเยนอ่อนค่าลงมาค่อนข้างเยอะในช่วง สัปดาห์นี้ น่าจะเป็นการเล่นข่าวเก่าที่ว่าเบอร์นันเก้แนะนำญี่ปุ่นให้ออกบอนด์ในการทำ QE เพื่อกระตุ้นให้เยนแข็งค่า และก็มี Fund Flow โยกย้ายเข้ามา ดูจากหุ้นไทยบวก 11 จุด แต่ก็มีแรงขายช่วงท้าย"นักบริหารเงิน กล่าว

อย่างไรก็ตาม เย็นนี้ให้จับตาผลประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)

"เงินบาทถ้าหลุด Figure ก็คงยาว แนวรับแรกน่าจะอยู่ 34.88 บาท/ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านน่าจะอยู่ที่ 35.10 และ 35.15"นักบริหารเงินกล่าว

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 105.90 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 104.36 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1112 ดอลลาร์/ยูโ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1110 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,488.69 จุด เพิ่มขึ้น 11.08 จุด, +0.75% มูลค่าการซื้อขาย 68,169.15 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 4,027.92 ลบ.(SET+MAI)
  • ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เสถียรภาพระบบการเงินไทยอยู่ในเกณฑ์ดี แต่เริ่มมีความ
เปราะบางในบางจุด ได้แก่ กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและเล็ก และครัวเรือนเกษตร ที่ความสามารถในการชำระหนี้ลดลงจากภาวะ
เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้าและปัญหาภัยแล้งที่ผ่านมา รวมทั้งผลกระทบจากภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำยาวนาน ขณะที่อัตราการว่างงานในประเทศ
ยังไม่เป็นปัญหา แม้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 3-4 เดือน

ด้านเสถียรภาพการเงินด้านต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ดี สามารถช่วยรองรับผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงด้านต่างประเทศ แต่ยังต้องเฝ้าระวังความไม่แน่นอนจากปัจจัยอื่นๆ จากนอกประเทศ อาทิ การดำเนินนโยบายการเงินของประเทศอุตสาหกรรมหลัก ผลที่จะเกิดจาก Brexit ที่ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนมากขึ้นจากภาวะเงินไหลเข้า-ออก แนะภาคเอกชนเน้นบริหารความ เสี่ยง

  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เดินหน้าเจรจาการค้าในรูป
แบบหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทวิภาคี (Bilateral strategic partnership) กับประเทศเป้าหมาย คือ จีนและอินเดีย โดยเน้น
อุตสาหกรรมเป้าหมายที่ไทยต้องการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งจะเกิดความรวดเร็วและได้ข้อสรุปที่เป็นประโยชน์กับทั้ง
2 ฝ่ายได้มากกว่าการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ที่บางข้อตกลงยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี แนะภาครัฐ-เอกชนร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่ง
ขันของประเทศ ใน 4 มิติด้วยกัน
  • กระทรวงคลังศึกษาการเก็บภาษี หรือ ค่าธรรมเนียม จากการพัฒนาที่ดินบริเวณรถไฟความเร็วสูง เพราะถือว่าได้รับ
ประโยชน์จากโครงการโดยตรง โดยเฉพาะบริเวณสถานีจะเกิดการพัฒนาเป็นจุดสำคัญทางเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งผู้ที่ได้รับประโยชน์
จากการพัฒนาดังกล่าวก็ควรต้องจ่ายอะไรคืนให้กับประเทศ
  • นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการลงทุนพัฒนาระบบรางอย่างมากโดย
เฉพาะรถไฟ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการจัดสรรงบประมาณจำนวนมาก เพื่อพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ โดยในปีนี้ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างไป
แล้ว 2 เส้นทางและอยู่ระหว่างเตรียมประกวดราคา อีก 4 เส้นทาง และในปี 60 จะมีเพิ่มอีก 8-10 เส้นทาง นอกจากนี้ ยังมีการ
ลงทุนจัดหาขบวนรถโดยสารรุ่นใหม่ 115 คัน และขบวนรถขนส่งสินค้าอีก 308 คัน
  • ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จัดการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกหลังการลงประชามติ
ในสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.เพื่อแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดย BoE มีกำหนดประกาศมติการประชุมใน
เวลา 18.00 น.ตามเวลาไทย
  • รัฐมนตรีกระทรวงการคลังคนใหม่ของอังกฤษเปิดเผยว่า อังกฤษจะไม่ออกงบประมาณฉุกเฉิน แม้ว่าจะมีผู้กังขาเกี่ยว
กับสถานภาพเศรษฐกิจของอังกฤษ หลังจากที่มีการลงประชามติเพื่อถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
  • นายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าวแสดงความเห็นในการประชุม
แห่งหนึ่งที่เมืองฟิลาเดลเฟียว่า การที่อังกฤษถอนต้วจากสหภาพยุโรป (Brexit) จะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจ
สหรัฐ พร้อมกับกล่าวว่า เฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ