นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า โครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐที่ได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการแล้ว 11 โครงการ มูลค่ากว่า 4.6 แสนล้านบาทจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวได้เพิ่มขึ้นจากประมาณการราว 0.3-0.5% จากคาดการณ์ที่ 3% และยังมีโครงการอีกมากที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการเตรียมเสนอขออนุมัติ ซึ่งการก่อสร้างและลงทุนในโครงการต่าง ๆ ดังกล่าวจะช่วยผลักดันเศรษฐกิจปี 60 ให้เติบโตต่อเนื่องได้ราว 3.5-4.0% ด้วย
"ทั้ง 11 โครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้างหลายโครงการ ได้แก่ รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ เหล่านี้จะเป็นการช่วยสร้างการเติบโตของ GDP นอกเหนือจากการเติบโตปกติที่ประเมินไว้ที่ 3% ถ้ามีโครงสร้างพื้นฐานจะเพิ่ม GDP อีกประมาณ 0.3-0.5%...Mega Project ไม่ใช่แค่โครงการ แต่เป็น New Drive Growth ของไทย "นายอาคม กล่าวในงานสัมนา"Mega Project:New Growth,New Thailand"
สำหรับแผนปฏิบัติการโครงสร้างพื้นฐานระยะเร่งด่วนปี 59 (Action Plan) มีจำนวน 20 โครงการ วงเงินรวม 1.79 ล้านล้านบาท ขณะนี้ได้ปรับลดวงเงินมาที่ 1.4 ล้านล้านบาท หลังจากที่โครงการได้รับการอนุมัติและมีการจัดทำราคากลาง รวมทั้งมีการแข่งขันของเอกชน ทำให้ราคาต่ำกว่าที่ประมาณการไว้แต่แรก ช่วยประหยัดงบประมาณได้
นอกจากนี้ จะมีแผนปฏิบัติการในปี 60 ซึ่งกำลังรวบรวมข้อมูลและจะสรุปได้ก่อนเดือน ต.ค. 59 ซึ่งจะมีโครงการต่อเนื่องจากปี 59 อาทิ โครงการรถไฟทางคู่ระยะ 2 และ 3 เป็นต้น ขณะที่โครงข่ายรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพและปริมณฑล 10 เส้นทาง ระยะที่ 1 จะเสร็จสิ้นในปี 60 ที่คาดว่าจะมีการอนุมัติโครงการได้ครบทั้งหมด คาดว่าโครงข่ายเหล่านี้จะสามารถเปิดให้บริการครบภายในปี 65 เพื่อทำให้มีการใช้รถยนต์น้อยลง
นายอาคม กล่าวอีกว่า นอกจากโครงสร้างพื้นฐานที่จะช่วยการเติบโตเศรษฐกิจแล้ว ยังมีการท่องเที่ยวที่ช่วยผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งกระทรวงคมนาคมก็มีโครงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ให้รองรับผู้โดยสารเพิ่มอีก 15 ล้านคน/ปี โครงการขยายสนามบินดอนเมือง และสนามบินอู่ตะเภาที่ขยายอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น รวมทั้งมอบหมายให้กรมท่าอากาศยาน (ทย.) พัฒนาสนามบินภูมิภาค 28 แห่ง รวมทั้งขยายรันเวย์ เพื่อให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมโครงการ East Corridor ในภาคตะวันออก และการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ 10 แห่งที่สนับสนุนการค้าชายแดนที่ขยายตัวมากขึ้น รวมทั้งการขยายของตัวเมืองในต่างจังหวัดหลังจากโครงสร้างพื้นฐานได้ขยายออกไป โดยเฉพาะจากโครงการรถไฟความเร็วสูง อาทิ กรุงเทพ- นคราชสีมา กรุงเทพ-พัทยา-ระยอง เป็นต้น
"จากวิกฤตเศรษฐกิจในปี 40 ทำให้การลงทุนภาครัฐมีสัดส่วนลงทุนไม่ถึง 10% จากเดิมลงทุน 20% ปัจจุบันการลงทุนภาครัฐเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% จะเป็น New Growth ส่วนหนึ่งมาจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เป็นตัวหนึ่งช่วยการเติบโตของ GDP "นายอาคม กล่าว
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมยังให้ความสำคัญกับการใช้พื้นที่โดยรอบ หรือ 2 ข้างทาง เช่น โครงการรถไฟ โครงการถไฟฟ้า เพื่อเพิ่มมูลค่าให้มีรายได้เข้ารัฐมากขึ้น โดยโครงการใหม่จะออกแบบสถานีให้มีพื้นที่เชิงพาณิชย์มากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากมีการเวนคืนก็อาจจะไม่มีพื้นที่เพื่อทำเชิงพาณิชย์ได้เพราะต้องเวนคืนเฉพาะที่ทำโครงการได้เท่านั้น