นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.00 บาท/ดอลลาร์ จากเปิด ตลาดเช้าที่ระดับ 34.99 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 34.98-35.05 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหว ตามค่าเงินสกุลหลักในภูมิภาค
"บาทเคลื่อนไหวในกรอบตามค่าเงินสกุลหลักในภูมิภาค ยังไม่มีปัจจัยที่ชัดเจน ตลาดรอผลประชุม FOMC คืนนี้" นัก
บริหารเงิน กล่าว
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ประเมินไว้ระหว่าง 34.95-35.05 บาท/ดอลลาร์
"คืนนี้มีอีเว้นท์ใหญ่ที่อาจส่งผลต่อค่าเงินบาท ขึ้นอยู่กับว่าผลจะออกมาอย่างไร" นักบริหารเงิน กล่าว
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 105.39 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 105.10 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0999 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1089 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,515.40 จุด เพิ่มขึ้น 10.59 จุด, +0.70% มูลค่าการซื้อขาย 59,855.06 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,176.44 ล้านบาท(SET+MAI)
- โฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559 (ต.
ค.58 – มิ.ย.59) จัดเก็บได้ 1,793,590 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 78,456 ล้านบาท หรือ 4.6%
และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 10.0%
- กระทรวงพาณิชย์ เผยภาวะการค้าระหว่างประเทศในเดือน มิ.ย. 59 การส่งออกมีมูลค่า 18,146 ล้านเหรียญ
สหรัฐฯ หดตัว -0.1% จากตลาดคาด -1.5 ถึง -2.6% ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 16,181 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว -10.1% ส่ง
ผลให้ดุลการค้า มิ.ย.เกินดุล 1,965 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยการส่งออกของไทยเริ่มมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและหดตัวต่ำ
สุดในรอบ 3 เดือน แต่ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว
- ด้านรมช.พาณิชย์ ยังคงเป้าหมายส่งออกปีนี้ที่ 5% เพื่อเป็นเป้าการทำงาน แต่ประเมินว่าการส่งออกของไทยปีนี้น่าจะ
ขยายตัวได้ 2-3% แต่โอกาสเป็นไปได้มากที่สุด คือ บวก-ลบ 1% เพราะเศรษฐกิจโลกยังฟื้นตัวอย่างเปราะบาง
- ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยดัชนีธุรกิจกรุงไทย (Krung Thai Business Index: KTBI) ประจำไตรมาสที่
2/2559 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับปกติอีกครั้งที่ระดับ 50.43 สูงสุดในรอบ 4 ไตรมาส และความเชื่อใน 3 เดือนข้างหน้า เพิ่มขึ้น
จากระดับ 50.18 เป็น 50.95 สูงกว่าระดับปกติอย่างต่อเนื่อง
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)เผยการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือนมิ.ย. 59 ส่งออกได้
107,025 คัน เพิ่มขึ้น 39.4% จากเดือน มิ.ย.58 คิดเป็น มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 57,461.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.58% จาก
มิ.ย.58 เนื่องจากการส่งออกรถยนต์นั่งและรถกระบะดับเบิลแค็บเริ่มมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากหลายประเทศ ส่งผลให้ในช่วง 6 เดือน
แรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.59) มียอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 594,823 คัน เพิ่มขึ้น 3.25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็น
มูลค่าการส่งออก 319,090.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ส.อ.ท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน มิ.ย.59 อยู่ที่ 85.3 ลดลงจากระดับ 86.4 ในเดือนพ.ค.
เกิดจากองค์ประกอบยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการและผลประกอบการ
- นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นจะระดมเม็ดเงินกว่า 28 ล้านล้านเยนมาใช้กับ
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมผลกระทบด้านลบที่เกิดขึ้นจากการที่อังกฤษตัดสินใจออกจากสหภาพยุโรป โดยจะ
เพิ่มการใช้จ่ายในการสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน รวมทั้งเร่งกระตุ้นการส่งออกสินค้าเกษตร และดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น
ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายที่แท้จริงของรัฐบาลในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจจะต่ำกว่าจำนวนดังกล่าว โดยเม็ดเงินส่วนหนึ่งจะมาจาก
การปล่อยเงินกู้และการลงทุน ซึ่งไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของงบประมาณทั่วไป
- ธนาคารโลกได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในรายงาน Commodities Markets Outlook ของธนาคาร
เนื่องจากมองว่าอุปทานน้ำมันชะงัก ขณะที่อุปสงค์แข็งแกร่งในไตรมาสที่ 2 ธนาคารโลกคาดว่า ราคาน้ำมันดิบจะแตะที่ระดับ 43
ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 41 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการคาดการณ์เมื่อเดือนเม.ย.