นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.78/80 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวัน ศุกร์อยู่ที่ระดับ 34.85/86 บาท/ดอลลาร์
"เปิดมาวันนี้ 34.78/80 ช่วงกลางคืนลงหนักทำ Low 34.77 อย่างไรก็ตามยังไม่ถือว่าเป็นสถิติใหม่ เพราะเคยลงไป ทำ Low ปีที่ 34.73 เมื่อเดือนมี.ค. แต่ตอนนี้ก็มาใกล้ๆแล้วแต่ก็มีโอกาสลงต่อ ช่วงคืนวันศุกร์ GDP สหรัฐฯออกมาไม่ค่อยดี ค่อนข้าง แย่เมื่อเทียบกับที่คาดไว้ จึงมีแรงเทขายดอลลาร์และซื้อสกุลอื่นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ มองว่ามีโอกาสลงต่อ" นักบริหารเงิน กล่าว
ทั้งนี้ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวเงินบาทวันนี้ระหว่าง 34.70-34.85 บาท/ดอลลาร์
"มองว่าแนวรับ 34.73 ซึ่งเป็น Low เก่าน่าจะรับอยู่ แต่เผื่อใจไว้แนวรับน่าจะอยู่ที่ 34.70 ส่วนแนวต้านไม่น่าเด้ง มาก ถ้าผ่าน 34.81/82 ก็เก่งแล้ว" นักบริหารเงิน กล่าว
โดยสัปดาห์นี้มีประเด็นต้องติดตามหลายเรื่อง โดยเฉพาะการประชุมแบงก์ชาติของประเทศต่างๆ รวมทั้งไทย และตัว เลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ คือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร
*ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.50 เยน/ดอลลาร์ จากวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 103.80 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1170 ดอลลาร์/ยูโร จากวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 1.1090 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.8750 บาท/
ดอลลาร์
- ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (1-5 ส.ค.)ที่ 34.70-35.00 บาทต่อ
ดอลลาร์ฯ โดยตลาดอาจรอติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ เพื่อประเมินโอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดย
เฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ดัชนี PMI ภาคการผลิต-ภาคบริการเดือนก.ค. ยอดสั่งซื้อของโรง
งาน รายได้-รายจ่ายส่วนบุคคล และดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคลเดือนมิ.ย.
- ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย หรือ TMB Analytics ประเมินว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการ
เงิน (กนง.) วันที่ 3 ส.ค.นี้ จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี ลังพบว่าเศรษฐกิจไทยยังมีสัญญาณบวกต่อเนื่อง
จากมาตรการภาครัฐและภาคการท่องเที่ยว แม้ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตาดูต่อไป
- นักเศรษฐศาสตร์ เชื่อ กนง. "คง" ดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องที่ 1.5% รอดูผลประชามติ ชี้หาก "ผ่าน" ทุนนอกจ่อ
ไหลเข้าเพิ่ม มองสัญญาณเศรษฐกิจ เริ่มฟื้นตัวชัด ขณะเงินเฟ้อไร้แรงกดดัน จับตา ธปท. งัดมาตรการดูแลเงินบาท หลังแข็งค่าแซง
ภูมิภาค
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ผลการสำรวจความเห็นสถาบันการเงินรัฐและเอกชนเห็นตรงกัน
แนวโน้มสินเชื่อในระยะต่อไปของปีนี้ยังชะลอตัว แม้สินเชื่อในไตรมาส 2 เริ่มขยับ
- เข้าสู่โค้งสุดท้าย 7 วันอันตรายก่อนที่จะมีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคมนี้ ท่ามกลางการ
ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดจากฝ่ายความมั่นคง โดยเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ส่ง
หนังสือถึงรองปลัดกระทรวง ผู้ตรวจราชการกระทรวง อธิบดี และผู้ว่าราชการจังหวัด สั่งให้จับตาและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น
ในแต่ละพื้นที่ 4 ภาค
- เอกชน "ท่องเที่ยว-อุปโภค-อสังหาฯ" ไม่หวั่น ผลประชามติ ระบุ "รับ-ไม่รับร่าง" รัฐธรรมนูญ เชื่อไม่กระทบ
ธุรกิจ เต็มที่อาจกระทบเชื่อมั่นช่วงสั้น มั่นใจรัฐดูแลความสงบเรียบร้อยได้ ขณะแรงส่งเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง เชื่อไม่เลวร้ายและผ่านจุด
ต่ำสุดไปแล้ว
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เบื้องต้นประจำไตรมาส 2 ขยายตัว
เพียง 1.2% ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.6% นอกจากนี้ ทางกระทรวงยังได้ปรับลดตัวเลขจีดีพีในไตรมาสแรก สู่ระดับ 0.8%
หลังจากรายงานก่อนหน้านี้ว่ามีการขยายตัว 1.1%
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่า
ของสกุลเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับแรงกดดันจากความวิตกเกี่ยว
กับภาวะปริมาณน้ำมันล้นตลาด และการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ของสหรัฐขยายตัวใน
อัตราที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 41.60 ดอลลาร์/
บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 42.46 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์
มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ของสหรัฐขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้กระตุ้นให้นักลงทุน
เข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนสัญญาทองคำพุ่งขึ้น
ด้วย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 16.3 ดอลลาร์ หรือ 1.22% ปิดที่
1,357.50 ดอลลาร์/ออนซ์
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวัน
ศุกร์ (29 ก.ค.) หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ของสหรัฐ
ขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ ขณะที่ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนบ่งชี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐอยู่ในระดับ
ต่ำกว่าคาดในเดือนก.ค. โดยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.05 เยน จากระดับ 105.44 เยนในการซื้อ
ขายวันก่อน ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.1166 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1073 ดอลลาร์สหรัฐ
- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ในภาคธนาคารของยูโรโซน
โดยระบุว่า ธนาคารส่วนใหญ่มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะสามารถต้านทานการทรุดตัวของเศรษฐกิจ และภาวะผันผวนในตลาดการ
เงิน
- นักวิเคราะห์ซึ่งได้รับการสำรวจจากสำนักข่าวเกียวโด คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัว 0.4% ในไตรมาส
2 ซึ่งจะเป็นการขยายตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาส โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการใช้จ่ายในภาครัฐ