บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ 17 สถาบันการเงิน เดินหน้าโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Start-up&Innovation พร้อมดำเนินการทันที ขยายวงเงินค้ำประกัน SMEs สูงสุด 20 ล้านบาท นาน 10 ปี สร้างแรงจูงใจธนาคารปล่อยสินเชื่อ รองรับหนี้เสียสูงสุดถึง 50%
นายนิธิศ มนุญพร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. เปิดเผยว่า บสย.ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ 17 ธนาคารพันธมิตรเพื่อประกาศความพร้อมให้การสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ในโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Start-up&Innovation มั่นใจช่วยเสริมสร้างบรรยากาศการเข้าถึงสินเชื่อ และการปล่อยสินเชื่อหนุนผู้ประกอบการ SMEs รายใหม่และผู้ประกอบการที่มีนวัตกรรม
นอกจากนี้ บสย.ยังได้ปรับปรุงเงื่อนไขการค้ำประกันสินเชื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น ลดค่าธรรมเนียมการค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อลดต้นทุนผู้ประกอบการ และการเพิ่มความคล่องตัวให้กับธนาคารพันธมิตรที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะช่วยผลักดัน ให้ธนาคารสนับสนุนผู้ประกอบการกลุ่มนี้อันเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการในระยะยาวโดยเพิ่มการรองรับหนี้เสียสูงสุดถึง 50%
สำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ที่เป็นบุคคลธรรมดา โดยดำเนินธุรกิจไม่เกิน 3 ปี (Start-up) หรือเป็นผู้ประกอบการที่มีนวัตกรรมหรือเทคโนโลยี (Innovation) บสย.ให้การค้ำประกันสินเชื่อในวงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท แต่หากมีการจดทะเบียนนิติบุคคล สำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ บสย.ให้การค้ำประกันได้สูงสุด 5 ล้านบาท และในกรณีที่เป็นผู้ประกอบการที่มีนวัตกรรม บสย.ให้การค้ำประกันสูงสุด 20 ล้านบาท เพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ประกอบการมีการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า
อัตราค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อโครงการ Start-up&Innovation อยู่ที่ 1-2% ของวงเงินค้ำประกัน (ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของธนาคาร) จากเดิม โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Start-up ปี 58 บสย.คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 2.5% ของวงเงินค้ำประกัน ทั้งนี้ยังช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการ ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อปีแรก โดยรัฐบาลเป็นผู้จ่ายค่าธรรมเนียมค้ำประกันแทน
ทั้งนี้ บสย.คาดว่าภายในสิ้นปี 59 จะช่วยผู้ประกอบการค้ำประกันสินเชื่อเฉพาะโครงการStart-up&Innovation ประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยสามารถรับคำขอค้ำประกันสินเชื่อได้จนถึง 31 ธ.ค.61