ธปท.เผย Q2/59 ความต้องการสินเชื่อยังโตต่ำ-NPL เร่งตัวขึ้น กระทบกำไรสุทธิแบงก์พาณิชย์

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 11, 2016 16:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 2/59 ว่า ระบบธนาคารพาณิชย์มีเสถียรภาพ มีเงินสำรองและเงินกองทุนในระดับสูง สามารถรองรับการขยายตัวของสินเชื่อและสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไปได้ แม้ภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปจะมีผลกระทบต่อการขยายตัวและคุณภาพของสินเชื่อ ซึ่งส่งผลต่อเนื่องถึงความสามารถในการทำกำไรของระบบธนาคารพาณิชย์

ทั้งนี้ ความต้องการสินเชื่อที่ยังอ่อนแอภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่งผลให้สินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 2/59 ขยายตัวในระดับต่ำที่ 3.3% จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยสินเชื่อธุรกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสินเชื่อเพื่อซื้อกิจการค้าปลีกขนาดใหญ่เป็นสำคัญ ขณะที่สินเชื่ออุปโภคบริโภคขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงต่อเนื่อง

สินเชื่อธุรกิจ (คิดเป็น 67.9% ของสินเชื่อรวม) ขยายตัว 2.0% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน โดยขยายตัวดีในภาคธุรกิจการเงิน (จากสินเชื่อเพื่อซื้อกิจการในธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่) ภาคบริการและก่อสร้าง ขณะที่สินเชื่อในภาคอุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์หดตัว และสินเชื่อในภาคพาณิชย์กลับมาขยายตัวเป็นบวกเล็กน้อย หลังจากหดตัวต่อเนื่องมา 2 ไตรมาส

สินเชื่ออุปโภคบริโภค (คิดเป็น 32.1% ของสินเชื่อรวม) ขยายตัว 6.0% ชะลอลงต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากครัวเรือนยังไม่มั่นใจในการใช้จ่าย ประกอบกับธนาคารพาณิชย์ยังระมัดระวังการขยายสินเชื่อส่วนบุคคลโดยเฉพาะในสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน อย่างไรก็ดี สินเชื่อที่อยู่อาศัยขยายตัวได้ดีแม้จะชะลอลงหลังสิ้นสุดมาตรการรัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ในเดือนเมษายน สินเชื่อรถยนต์ขยายตัวเป็นบวกต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สาม สอดคล้องกับตลาดรถยนต์ที่มียอดขายเพิ่มขึ้น ขณะที่สินเชื่อบัตรเครดิตได้รับอานิสงส์จากมาตรการรัฐในเดือนเมษายน ทำให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน

คุณภาพสินเชื่อด้อยลงต่อเนื่องทั้งในสินเชื่อธุรกิจโดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจ SME และสินเชื่ออุปโภคบริโภค โดยสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) มียอดคงค้าง 373.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 16.3 พันล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วน Gross NPL ต่อสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นเป็น 2.72% จาก 2.64% ขณะที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้

ขณะที่สินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ (SM) มียอดคงค้าง 297.9 พันล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 8 พันล้านบาท ทำให้สัดส่วน SM ต่อสินเชื่อรวมลดลงมาอยู่ที่ 2.17% จาก 2.26% ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์มีการกันสำรองสำหรับสินเชื่อด้อยคุณภาพในระดับสูงต่อเนื่อง โดยเงินสำรองของระบบธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน 24.2 พันล้านบาท เป็น 492.8 พันล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วนเงินสำรองที่มีต่อเงินสำรองพึงกันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 161.3% จากไตรมาสก่อนที่ 160%

“ธปท.ได้สั่งให้ธนาคารพาณิชย์ไปพิจารณาลูกค้ากลุ่มเอสเอ็มอีที่มีปัญหา ในรายที่มีศักยภาพในการชำระหนี้ในระยะยาว ให้ไปดูแลปรับโครงสร้างหนี้ ช่วยเหลือลูกค้าใกล้ชิด”นายดอน กล่าว

ขณะที่ในไตรมาส 2/59 ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรจากการดำเนินงาน 97.6 พันล้านบาท ขยายตัว 3.1% จากระยะเดียวกันปีก่อน แม้จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง ขณะที่กำไรจากเงินลงทุนและธุรกรรมบริหารเงินจะลดลงจากผลของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่อยู่ในระดับต่ำ โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้นจากการบริหารต้นทุนเงินฝากและรายได้จากเงินปันผล สำหรับกำไรสุทธิเท่ากับ 50.9 พันล้านบาท ลดลง 4.6% จากระยะเดียวกันปีก่อน เป็นผลจากการกันสำรองที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับคุณภาพสินเชื่อที่อาจด้อยลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ทั้งนี้ อัตราส่วนรายได้ ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (NIM) และอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (ROA) ทรงตัวที่ 2.6% และ 1.2% ตามลำดับ

ภาพรวมฐานะทางการเงินของระบบธนาคารพาณิชย์มีความมั่นคง โดยมีเงินกองทุนทั้งสิ้น 2,273.7 พันล้านบาท และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio) ที่ 17.5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ