นางสาลินี วังตาล ประธานกรรมการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เผยผลประกอบการเดือน ก.ค.59 มีกำไรสุทธิ 155 ล้านบาท เป็นผลจากการขยายตัวของสินเชื่อต่อเนื่อง การบริหารจัดการหนี้ NPLs ลดลง ประกอบกับ ธพว.สามารถบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินลดลง และควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ภายใต้กรอบแผนงานที่วางไว้ แต่กำไรสุทธิเดือน ก.ค.59 ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดย ธพว.ได้ตั้งสำรองส่วนเกินเผื่อค่าหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงแข็งแกร่งทางด้านฐานะการเงินต่อไป
ขณะที่กำไรสุทธิของ ธพว.ในช่วง 7 เดือน(ม.ค.-ก.ค.59) เท่ากับ 1,259 ล้านบาท และนับถึงวันที่ 31 ก.ค.59 ธพว.สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่เพื่อช่วยผู้ประกอบการรายย่อยรวม 18,914 ล้านบาท จำนวน 6,242 ราย เฉลี่ยกู้ต่อราย 3 ล้านบาท ยอดสินเชื่อคงค้าง 88,858 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ธพว.มีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) นับถึง 31 ก.ค.59 คงเหลือ 19,758 ล้านบาท คิดเป็น 22.24% ของสินเชื่อรวม ลดลงจากเดือน มิ.ย.59 ที่มียอด NPLs เท่ากับ 20,011 ล้านบาท คิดเป็น 22.60% ของสินเชื่อรวม หรือลดลง 253 ล้านบาท ทั้งนี้เกิดจากธนาคารได้มีการตัดหนี้สูญทางบัญชีและมีการแก้ไขหนี้ NPLs ด้วยวิธีการที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย อาทิ การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ การชำระหนี้ปิดบัญชี
นางสาลินี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ค.59 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ได้พิจารณาผลการดำเนินการตามแผนการแก้ไขปัญหาองค์กรของ ธพว.และมีมติรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานของ ธพว.ซึ่งส่วนใหญ่ได้ดำเนินการตามมติ คนร.และแผนงานที่กำหนดไว้ รวมทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เข้าตรวจสอบคุณภาพการปฏิบัติงานด้านการตรวจสอบภายใน (Internal Audit) และด้านการกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ (Compliance) เมื่อเดือน ก.ค.59 พบว่า ธพว.มีมาตรฐานในระดับที่ยอมรับได้ และ ธปท.ยังได้ให้ข้อเสนอแนะในการเพิ่มประสิทธิภาพของงานดังกล่าวให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นด้วย