สศก.เผยโครงการส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ผลตอบรับดี วอนรัฐเดินหน้าหนุนต่อเนื่อง

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 20, 2016 12:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุรพงษ์ เจียสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ของกระทรวงเกษตรฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มและบริหารจัดการร่วมกัน โดยมีตลาดรองรับที่แน่นอน ให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิต มีผลผลิตต่อหน่วยเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ (ต.ค.58 - ส.ค.59) ได้ดำเนินการไปแล้ว 92% ของเป้าหมาย ครอบคลุมทั้ง 5 ด้านสำคัญ ดังนี้

1.การเตรียมการ ขณะนี้มีแปลงดำเนินงานตามระบบส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่แล้ว จำนวน 596 แปลง จำนวนพื้นที่ 1.47 ล้านไร่ เกษตรกร 93,260 ราย โดยมีแปลงใหญ่ที่ผ่านการรับรองจากคณะอนุกรรมการฯ จำนวน 564 แปลง ประกอบด้วย 9 กลุ่ม 32 ชนิดสินค้า

2.การพัฒนาผู้จัดการแปลง กรมส่งเสริมการเกษตร จัดอบรมผู้จัดการแปลงของ 268 แปลง และทีมขับเคลื่อนงานของจังหวัด เพื่อสร้างแนวคิดและความรู้กับผู้จัดการแปลงในด้านการผลิต การบริหารจัดการ และการตลาด ดำเนินการครบแล้วทั้ง 4 รุ่น รวม 520 คน

3.การกำหนดเป้าหมายและแผนปฏิบัติ มีการกำหนดเป้าหมายการพัฒนาและแผนปฏิบัติงานในแปลงใหญ่ 533 แปลงที่ชัดเจน ใน 5 ด้าน ดังนี้ ด้านการลดต้นทุนการผลิต (481 แปลง) ด้านการเพิ่มผลผลิต (468 แปลง) ด้านการเพิ่มมูลค่าผลผลิต (457 แปลง) ด้านการบริหารจัดการ (405 แปลง) ด้านการตลาด (438 แปลง)

4.การดำเนินงานตามแผน ทุกแปลงที่ผ่านการรับรองมีการดำเนินงานตามแผน โดยหน่วยงานภายใต้กระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เอกชน และหน่วยงานท้องถิ่น

5.การติดตามและประเมินผล มีการติดตามความก้าวหน้าโดยระบบงานออนไลน์ที่มีการปรับปรุงข้อมูลในลักษณะ Real Time ซึ่งขณะนี้ มีจังหวัดบันทึกข้อมูลในระบบออนไลน์จำนวน 530 แปลง มีการติดตามโดยหน่วยงานของกระทรวงเกษตร และผู้ตรวจราชการ

จากการดำเนินงานตามแผนดังกล่าว สศก. ได้มีการติดตามประเมินผล โดยสำรวจข้อมูลในพื้นที่ 20 จังหวัด กระจายครอบคลุมพื้นที่ทั่วทั้งประเทศ จำนวน 24 ชนิดสินค้า เกษตรกร 615 ตัวอย่าง พบว่า เกษตรกร 95% ได้รับการส่งเสริมความรู้การพัฒนาการเกษตร โดยมีเกษตรกรที่ได้รับการส่งเสริมได้นำความรู้ไปปฏิบัติในพื้นที่ตนเอง ด้านการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต เกษตรกรสามารถซื้อปัจจัยการผลิตราคาลดลง (เมล็ดพันธุ์ข้าวลดลง 1.68 บาท/กก. และปุ๋ยเคมีราคาลดลง กระสอบละ 35 บาท)

ด้านการลดต้นทุนการผลิต พบว่า ต้นทุนการผลิตข้าวลดลง 288 บาท/ไร่ (34%) ปาล์มน้ำมันลดลง 364 บาท/ไร่ (15%) มันสำปะหลังลดลง 133 บาท/ไร่ (15%) ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 99 บาท/ไร่ (13%) ไม้ผลลดลง 339 บาทไร่ (9%) ด้านการตลาด มีเกษตรกรที่เริ่มมีการเก็บเกี่ยวผลผลิตและขายแล้ว 30% (17% มีการรวมกลุ่มกันขาย และ 63% ขายได้ราคาสูงขึ้นกว่าเดิม) ด้านการบริหารจัดการ พบว่า เกษตรกรที่รวมกลุ่มกันซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าว ได้ราคาถูกกว่าแบบต่างคนต่างซื้อ 0.62 บาท/กก. มีการร่วมกันผลิตปุ๋ยอินทรีย์/สารชีวภัณฑ์ ผู้รับซื้อตกลงมารับซื้อ ณ จุดรวบรวมผลผลิต ซึ่งช่วยลดต้นทุน ซึ่งเกษตรกร 65% มีความพึงพอใจต่อการดำเนินงานโครงการในระดับมาก และ 34% พึงพอใจในระดับปานกลาง เนื่องจากเห็นว่าแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิตในปี 2559/60 ลดลงจริง

อย่างไรก็ตาม ต้องการให้หน่วยงานต่างๆ ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีการพัฒนาที่ยั่งยืน และเกษตรกรสามารถที่จะเป็นผู้จัดการแปลงได้เองในอีก 3 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้ ได้มีการสนับสนุนสินเชื่อในโครงการสนับสนุนให้กลุ่มชาวนาผู้ผลิตข้าวแบบแปลงใหญ่ ซึ่ง ครม.ได้อนุมัติเมื่อวันที่ 31 พ.ค.59 ในแปลงใหญ่ข้าว 426 แปลง ระยะเวลา 1 ปี ภาครัฐชดเชยดอกเบี้ย ธ.ก.ส.ในอัตรา 3.50% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยในส่วนของกลุ่มเกษตรกร/วิสาหกิจชุมชน/สหกรณ์ อัตรา 0.01% ต่อปี ขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นโครงการขอกู้กับ ธ.ก.ส. และเมื่อวันที่ 30 ส.ค.59 ครม.ได้อนุมัติสินเชื่อโครงการสนับสนุนเชื่อเพื่อพัฒนาระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ในแปลงใหญ่ จำนวน 650 แปลง เป็นระยะเวลา 3 ปี สำหรับสินค้าเกษตรอื่นๆ ที่ไม่ใช่ข้าว ในส่วนของข้าวจะได้รับสินเชื่อต่อในปี 2 และ 3 จากโครงการนี้ ภาครัฐชดเชยดอกเบี้ย ธ.ก.ส. ในอัตรา 3% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยในส่วนของกลุ่มเกษตรกร/วิสาหกิจชุมชน/สหกรณ์ อัตรา 0.01% ต่อปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ