อังกฤษสนใจขยายการค้าการลงทุนในไทยและใช้เป็นประตูสู่อาเซียน ฝากแก้อุปสรรคการค้าให้เอกชน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 3, 2016 16:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังนายมาร์ค การ์นิเยร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการค้าระหว่างประเทศสหราชอาณาจักร นำสมาชิกสภาผู้นำธุรกิจไทย – สหราชอาณาจักรเข้าเยี่ยมคารวะ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการค้าระหว่างประเทศ พร้อมขอบคุณที่ยังให้ความสำคัญกับประเทศไทยและได้นำภาคเอกชนสหราชอาณาจักรมาด้วยตนเอง

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไทยพร้อมจะร่วมมือกับภาคเอกชนของสหราชอาณาจักร เพื่อพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันในด้านที่มีศักยภาพต่างๆ และจะเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของสหราชอาณาจักรในเอเชียต่อไป

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีการปฏิรูปประเทศในทุกด้าน และเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนและอุปสรรคในด้านต่างๆ การจัดทำกรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี การปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจตามนโยบาย Thailand 4.0 เพื่อให้ประเทศสามารถก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง (Middle Income Trap)

พร้อมเห็นว่าสมาชิกสภาผู้นำธุรกิจไทย – สหราชอาณาจักร จะเป็นกลไกที่ช่วยขับเคลื่อนและทำให้พลวัตของความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนระหว่างกันเพิ่มพูนมากขึ้น รวมทั้งเป็นเวทีที่จะหารือกันอย่างเสรี และร่วมกันแก้ไขปัญหาและอุปสรรค โดยรัฐบาลพร้อมรับฟังและให้การสนับสนุน

ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายหวังให้มีการเร่งรัดการค้า การลงทุนระหว่างกัน โดยนายมาร์ค กานิเยร์ หวังส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนในสหราชอาณาจักรมากขึ้น โดยเฉพาะนอกกรุงลอนดอน ตามนโยบายของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ซึ่งนายกรัฐมนตรีหวังให้ภาคเอกชนสหราชอาณาจักรเข้ามาลงทุนในไทยเช่นกัน โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีดิจิทัล วิทยาศาสตร์ นวัตกรรม โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของไทยตามนโยบาย Thailand 4.0

ด้านนายมาร์ค กานิเยร์ กล่าวว่า สหราชอาณาจักรสนใจที่จะขยายการลงทุนในไทย และใช้ไทยเป็นประตูสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และมองเห็นศักยภาพที่จะเป็นทางเข้าสู่ตลาดร่วมของอาเซียนซึ่งมีประชากรกว่า 600 ล้านคน พร้อมทั้งคาดหวังให้รัฐบาลเร่งผลักดันการแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อภาคเอกชนสหราชอาณาจักร อาทิ กฎหมายด้านการทำธุรกิจ มาตรการด้านการตรวจลงตรา ใบอนุญาตทำงาน ระบบภาษี ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลกำลังดำเนินการแก้ไขกฎระเบียบด้านการค้า การลงทุนที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนและขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมภายในปี 2560

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังได้แสดงความห่วงใยเกี่ยวกับการลงทุนของผู้ประกอบการบริษัทค้าปลีกของสหราชอาณาจักร โดยขอให้พิจารณาถึงผู้มีรายได้ต่ำของไทยด้วย ซึ่งอาจร่วมมือกับภาครัฐโดยผ่านช่องทางประชารัฐ

สำหรับความร่วมมือด้านอากาศยานนั้น นายมาร์ค กานิเยร์ กล่าวว่า สหราชอาณาจักร หวังจะมีการจัดตั้งศูนย์ซ่อมบำรุงและทดสอบอากาศยานของภูมิภาคอาเซียนในไทย โดยเห็นว่าไทยมีศักยภาพทั้งในด้านภูมิศาสตร์ที่อยู่ศูนย์กลางอาเซียน และมีแรงงานที่มีคุณภาพ

ส่วนความร่วมมือด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี และนวัตกรรม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งขับเคลื่อนประเทศไปสู่การเป็น Thailand 4.0 หรือ Value-based Economy โดยส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยเริ่มจากการพัฒนาบุคลากร ให้ความสำคัญกับการศึกษาและการพัฒนาศักยภาพของกำลังคนให้สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรม และเชิญชวนให้สหราชอาณาจักร เข้ามาเปิดสถาบันทั้งในระดับอุดมศึกษา และอาชีวศึกษาในประเทศไทยมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อการพัฒนาบุคลากรด้านวิชาชีพของไทย

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเรื่องการส่งเสริมความร่วมมือในด้าน วิศวกรรมการบิน การเงิน พลังงาน และการท่องเที่ยวซึ่งเป็นสาขาที่ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพอีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ