ครม.เห็นชอบให้เลื่อนระยะเวลาแนวทางบริหารจัดการมันสำปะหลังเร็วขึ้นเพื่อช่วยเกษตรกรในช่วงราคาตกต่ำ

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการมันสำปะหลังเพิ่มเติมของปี 59/60 ตามที่ครม.เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ได้อนุมัติแนวทางการบริหารจัดการมันสำปะหลังปี 59/60 ไปแล้ว 4 มาตรการ แต่ว่าหลังจากคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำหลัง (นบมส.) เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ได้พิจารณาแล้วว่าขณะนี้ราคามันสำปะหลังในประเทศและต่างประเทศมีแนวโน้มตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง จึงเห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการเพิ่มเติม โดยมาตรการแรก ให้เลื่อนระยะเวลการดำเนินโครงการ 3 โครงการที่ครม.ได้อนุมัติไว้คือ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลังในระบบน้ำหยด โครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตและการแปรรูปมันสำปะหลัง โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมมันสำปะหลังและสรร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกรจากของเดิมจะเริ่มดำเนินโครงการในวันที่ 1 ธ.ค.2559 เป็นเลื่อนมาเป็น 15 ต.ค.2559 เป็นต้นไปเพื่อให้สามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้เร็วขึ้น

มาตรการโครงการพักชำระหนี้ต้นเงินและลดดอกเบี้ยให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง เพื่อบรรเทาภาระหนี้สินและลดต้นทุนในการประกอบอาชีพของเกษตรกรซึ่งเป็นลูกค้าของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยจะมีการพักชำระเงินต้น เลื่อนกำหนดชำระ 2 ปี ตั้ง 1 ก.ย.2559 - 31 ส.ค.2561 และลดดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 3 ต่อปี โดยที่รัฐจะชดชดเชยให้ร้อยละ 1.5 และที่เหลืออีกร้อยละ 1.5 จะเป็นภาระของธ.ก.ส. เป้าหมายคือเกษตรกรที่เป็นลูกค้าธ.ก.ส.ที่มีหนี้เงินกู้วัตถุประสงค์เพื่อการผลิตมันสำปะหลัง ณ วันที่ 31 ส.ค.59รายละไม่เกิน 5 แสนบาท ทั้งหมดมีจำนวนประมาณ 5 แสนราย เป็นเงินกู้ทั้งหมดประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ดังนั้น มาตรการนี้จะเป็นภาระของรัฐประมาณ 1,200 ล้านบาท

ส่วนโครงการเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินที่จำเป็นในครัวเรือนและเป็นการแก้ปัญหาการก่อหนี้นอกระบบไปในตัว โดยที่ทางธ.ก.ส.จะคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.5 ต่อเดือนหรือปีละ 6% วงเงินกู้รายละไม่เกิน 2 หมื่นบาท ระยะเวลาจ่ายเงินกู้ตั้งแต่ เดือน พ.ย.59-31 มี.ค.60 มีระยะเวลการชำระหนี้ไม่เกิน 12 เดือนนับตั้งแต่วันที่ทำสัญญา