ที่ประชุมรมต.อาเซียน+3 ด้านเกษตรและป่าไม้ เดินหน้าร่วมมือความมั่นคงอาหารในภูมิภาค

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 12, 2016 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.จริยา สุทธิไชยา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านเกษตรและป่าไม้ ครั้งที่ 38 และการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านเกษตรและป่าไม้กับรัฐมนตรีประเทศบวกสาม ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี รวมถึงการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ในระหว่างวันที่ 3 -7 ต.ค.59 ที่สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยมีพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย

โดยภาพรวมของการประชุม ได้มีการหารือร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนในการสนับสนุนและร่วมมือตามแผนงานความร่วมมือด้านอาหาร การเกษตร และป่าไม้ ค.ศ. 2016 - 2025 ให้มีความต่อเนื่องและเป็นไปตามแผนงานที่ได้กำหนดไว้ รวมไปถึงยังยืนยันที่จะแสดงความมุ่งมั่นของเหล่าประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อดำเนินการความร่วมมือด้านความมั่นคงด้านอาหารและความปลอดภัยของอาหาร ผ่านการสนับสนุนการดำเนินงานในกรอบแผนบูรณาการการดำเนินงานของอาเซียนด้านความมั่นคงอาหาร (AIFS) และแผนกลยุทธ์ของการดำเนินการ (2015 -2020)

นอกจากนี้ ในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้กับรัฐมนตรีของจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี (อาเซียนบวก 3) รัฐมนตรีอาเซียนยังได้รับการยืนยันจากรัฐมนตรีของประเทศบวกสามในการสนับสนุนการดำเนินงานของอาเซียนกับประเทศบวกสามภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมืออาเซียนบวกสามด้านอาหาร การเกษตร และป่าไม้เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงอาหารอย่างต่อเนื่องต่อไป โดยเฉพาะการปฏิบัติงานขององค์การสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม (APTERR) และระบบข้อมูลสารสนเทศความมั่นคงอาหารแห่งอาเซียนบวกสาม (AFSIS) ซึ่งทั้งสองหน่วยงานมีที่ตั้งสำนักเลขานุการอยู่ที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านอาหารของภูมิภาคและของโลก และบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อภาคการเกษตร

โอกาสนี้ ไทยได้กล่าวขอบคุณประเทศอาเซียนบวกสามที่ได้ร่วมกันสนับสนุนการดำเนินโครงการและกิจกรรมต่างๆ ซึ่งรวมถึงกิจกรรมภายใต้ APTERR และ AFSIS มาด้วยดีโดยตลอด โดยในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา การดำเนินกิจกรรมของ APTERR ประสบความสำเร็จอย่างมากในการให้ความช่วยเหลือด้วยการบริจาคข้าวให้แก่ประเทศฟิลิปปินส์และกัมพูชา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุภัยธรรมชาติได้อย่างทันท่วงที โดยได้รับการสนับสนุนด้านข้อมูลสารสนเทศความมั่นคงอาหารที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพจากการดำเนินงานของ AFSIS ซึ่งมีการปรับปรุงและพัฒนาระบบข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ผ่านแผนงานการพัฒนาบุคลากรของอาเซียนด้านข้อมูลสารสนเทศมาโดยตลอด ทำให้ทั้งสององค์กรนี้จึงเป็นกลไกที่มีบทบาทสำคัญยิ่งในการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนความมั่นคงด้านอาหารของภูมิภาคอาเซียนบวกสามอย่างเป็นรูปธรรม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ