นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์ และรองโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงความคืบหน้าการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโซลาร์ฟาร์มสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ระยะที่ 2 จำนวน 519 เมกะวัตต์นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) คาดว่าจะเปิดรับซื้อในช่วงต้นปีหน้า
ทั้งนี้ ราคารับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) เดิมราคารับซื้ออยู่ที่ 5.66 บาท/หน่วย แต่ภายหลังคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา ปรับลดลงเหลือ 4.12 บาท/หน่วย เนื่องจากต้นทุนแผงและค่าติดตั้งปรับลดลง จากเดิมอยู่ที่ 54 ล้านบาท/เมกะวัตต์ในปี 57 ลดลงเหลือ 42 ล้านบาท/เมกะวัตต์ในปี 59 ดังนั้น คาดว่าการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโซลาร์ฟาร์มสำหรับหน่วยงานราชการฯ ระยะที่ 2 จะใช้อัตรา FiT ที่ 4.12 บาท/หน่วย
อย่างไรก็ตาม อัตราค่าไฟฟ้าสำหรับโครงการโซลาร์ฟาร์มของผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) ราคา Feed-in Tariff (FiT) อาจจะถูกลงกว่านี้ เนื่องจากขนาดใหญ่กว่ากลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็กมาก (VSPP) แต่ปัจจุบันกระทรวงพลังงานยังไม่มีนโยบายเปิดรับซื้อไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มจากกลุ่ม SPP แต่กระทรวงฯมีนโยบายจะทำเป็นระบบ Firm ดังนั้น อาจต้องมีแบตเตอรี่เข้ามาใช้เพื่อเก็บพลังงานไฟฟ้าเพื่อไว้ใช้ในช่วงที่ไม่มีแสงอาทิตย์ ซึ่งจะส่งผลต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้นด้วยหรือไม่ ปัจจุบันทางสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) อยู่ระหว่างพิจารณาราคารับซื้อไฟฟ้า และรูปแบบการเปิดประมูลแข่งขันด้านราคา (Bidding) ด้วย
“แนวโน้มต้นทุนแผงโซลาร์เซลล์ในปี 2560 อาจลดลงอีก ซึ่งอัตรา 4.12 บาทต่อหน่วย จะใช้ในช่วงปี 2560-2561 แต่ภายหลังจากปี 2561 อาจต้องมาคำนวณต้นทุนใหม่อีกครั้ง ขณะที่แผน AEDP กำหนดเป้าหมายรับซื้อไฟฟ้าจากโซลาร์ไว้ที่ 6,000 เมกะวัตต์ ปัจจุบันที่มีสัญญารับซื้อแล้ว 3,029 เมกะวัตต์"นายสราวุธ กล่าว
นายสราวุธ กล่าวอีกว่า จากกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งให้หน่วยงานราชการติดตั้งแผงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) บนหลังคา เพื่อใช้ในหน่วยงานราชการ รวมทั้งเพื่อลดค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้านั้น เบื้องต้นคาดว่าทางหน่วยงานราชการจะหารือกับสำนักงบประมาณ เพื่อตั้งงบติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์แต่ละหน่วยงาน เนื่องจากพบว่าปัจจุบันหน่วยงานราชการมีค่าใช้จ่ายเรื่องค่าไฟค่อนข้างสูง