นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวถึงกรณีตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในระบบธนาคารพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นว่า การเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจาก SMEs ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ ถ้าเศรษฐกิจปรับตัวลดลง NPL ก็ต้องเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว ดังนั้นรัฐบาลจำเป็นต้องทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลก็พยายามดำเนินการอยู่
"ไม่เชิงว่าเศรษฐกิจขณะนี้ตกต่ำ เพียงแต่มันยังขยายตัวได้ไม่เต็มที่ ตอนนี้เศรษฐกิจขยายตัวได้ 3% กว่า แต่เต็มที่ของเรา คือ 4-4% กว่า สิ่งที่ทำหลังจากนี้ ไม่ใช่ทำเพื่อให้เพียงพอที่จะแก้ปัญหาที่มีอยู่เท่านั้น แต่ยังต้องแก้ปัญหาในภาพรวมด้วย ทั้งเรื่อง NPL ความยากจน ความเหลื่อมล้ำ ก็ต้องเอาเครื่องมือที่มีอยู่ออกมาแก้ไข เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งเราต้องทำให้เต็มที่" นายอภิศักดิ์ กล่ว
พร้อมมองว่า ในปีหน้าไทยอาจจะต้องพึ่งพาการลงทุนของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจแทนภาคเอกชน เนื่องจากภาคเอกชนยังรอดูท่าทีสถานการณ์ต่างๆ และยังไม่ยอมลงทุนใหม่ ดังนั้นจึงต้องให้การลงทุนของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจแทน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการหารือกับรัฐวิสาหกิจและกำชับว่ารัฐวิสาหกิจที่มีแผนลงทุนในอีก 2 ปีหน้า ให้เลื่อนเข้ามาลงทุนในปีหน้าเลย
ส่วนโครงการลงทุนของกระทรวงคมนาคม หลายโครงการจะมีการเดินเครื่องอย่างเต็มกำลังในปีหน้า เพราะเชื่อว่าจะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี