นางสุวิมล เทวะศิลชัยกุล รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ SIPA เผยผลสำรวจพบสัดส่วนการใช้ซอฟต์แวร์เพื่อการเพิ่มผลิตภาพในการดำเนินกิจการเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและโลจิสติกส์ยังน่าเป็นห่วง
โดยผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและโลจิสติกส์จำนวนกว่า 94% เป็นกิจการขนาดเล็ก มีบุคลากรที่เกี่ยวข้องด้านไอทีเพียง 25% ซึ่งจะทำหน้าที่เฉพาะในการดูแลเรื่องการใช้ซอฟต์แวร์เพียง 4.5% (ท่องเที่ยว) และ 10.5% (โลจิสติกส์) สะท้อนถึงปัญหาด้านบุคลากรที่ขาดความชำนาญในการใช้งานซอฟต์แวร์ และไม่มีเจ้าหน้าที่ด้านไอทีของบริษัทโดยเฉพาะ
ขณะที่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีการใช้ซอฟต์แวร์ 79% ส่วนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์มีการใช้ซอฟต์แวร์ 78% โดยมาจากการซื้อซอฟต์แวร์สำเร็จรูป ทำให้เกิดปัญหาการใช้งานที่มักไม่ตรงกับความต้องการของธุรกิจ แต่มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่จ้างพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อใช้เองภายในองค์กรเพียง 4.7% ขณะที่ผู้ประกอบการโลจิสติกส์มีการจ้างพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อใช้เองภายในองค์กรถึง 16%
นางสุวิมล กล่าวว่า ประเด็นสำคัญที่สุดที่ช่วยผลักดันกิจการในธุรกิจท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ให้มีการใช้ระบบซอฟต์แวร์หรือใช้ซอฟต์แวร์เพิ่มขึ้นในอนาคต คือ ซอฟต์แวร์ที่ใช้ต้องง่ายไม่ซับซ้อน ซึ่งจะช่วยในการผลักดันผู้ประกอบกิจการให้หันมาใช้ซอฟต์แวร์ในการดำเนินกิจการ หรือใช้เพิ่มมากขึ้นในอนาคต รองลงมา คือ ฟังก์ชันของซอฟต์แวร์ต้องมีครบทุกความต้องการของกิจการและเหมาะสมกับขนาดของกิจการ
"ปัญหาในการใช้ซอฟแวร์ในภาคอุตสาหกรรมและความต้องการของสถานประกอบการนั้นสามารถกำหนดแนวทางเบื้องต้น เพื่อส่งเสริมการใช้ซอฟต์แวร์ในการเพิ่มความสามารถสำหรับดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม โดยการที่หน่วยงานภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้านการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรม ควรมีมาตรการเพื่อเร่งให้เกิดการใช้และสร้างความตระหนักหรือการให้ความสำคัญต่อการใช้ระบบซอฟต์แวร์ในการดำเนินธุรกิจ" นางสุวิมล กล่าว